สถิติผู้เข้าชม
 ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ 2
 ผู้เข้าชมในวันนี้ 133
 ผู้เข้าชมทั้งหมด 5,175,458
กรุณาฝาก Email ของท่าน
  เพื่อรับข่าวสาร ที่น่าสนใจ
29 มีนาคม 2567
อา จ. อ. พ. พฤ ศ. ส.
     
10  11  12  13  14  15  16 
17  18  19  20  21  22  23 
24  25  26  27  28  29  30 
31             
 
น้องตูบขี้เรื้อนแม่ลูกอ่อน
[10 สิงหาคม 2553 15:49 น.]จำนวนผู้เข้าชม 8344 คน
 

   เรื่องจริงที่ผมจะเล่าต่อไปนี้...เป็นเรื่องราวที่ได้มาจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้เองครับ...  

   เรื่องเริ่มขึ้นที่ประวัติของคุณวินิต  ที่เป็นคนอารมณ์ร้าย  โมโหร้าย  ชอบดื่มสุราเป็นประจำ  ที่สำคัญเขาชอบทานเนื้อน้องตูบเสียด้วย...  
   น้องตูบจรจัดทุกตัวในหมู่บ้าน(ที่ไม่มีเจ้าของ)มักจะถูกนายวินิจจองล้างจองผลาญ  และลงเอยด้วยการสังหาร แล้วเอาเนื้อมาทำเป็นอาหารรับประทานหรือเป็นกับแกล้ม...  
   ...แม้กระทั่งคุณแม่ของนายวินิตยังเคยเตือนลูกชายบ่อยๆว่า มันเป็นบาป เป็นกรรม ให้หยุดการกระทำเสีย  แต่เขาก็ไม่ยอมเชื่อ...  

   ...แล้วมาวันหนึ่งขณะที่เขากำลังตากเนื้อแห้ง(แหล่งข่าวไม่ได้ระบุว่าเป็นเนื้ออะไร)ไว้บนชานบ้านอยู่นั้น  ก็มีนังตูบขี้เรื้อนแม่ลูกอ่อนตัวหนึ่งผอมโซผ่านมาเห็นเนื้อแห้งนั้นพอดี  และขณะที่เขากำลังเผลอ  นังตูบขี้เรื้อนตัวนั้นก็คาบเอาเนื้อแห้งวิ่งเหยาะๆไปอย่างไม่เร็วนัก  

   ที่สำคัญเขาหันมาเห็นพอดี  อารมณ์โกรธก็พลุ่งพล่านขึ้นทันที  มือก็รีบคว้าไม้หน้าสามได้ก็รีบกระโจนลงมาจากชานบ้าน  และรีบวิ่งไล่กวดนังตูบขี้เรื้อนตัวนั้นไปติดๆ  

   ...ขณะนั้น  ก็มีน้องชายนายวินิตวิ่งตามไปดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็กๆว่าเหตุการณ์จะลงเอยอย่างไร...

   ...ด้วยความโมโหอย่างสุดประมาณของนายวินิต  ประกอบกับร่างกายอันผอมโซเพราะไม่ได้กินอาหารมาหลายวันนังตูบเจ้ากรรมตัวนั้น...นายวินิตและน้องชายจึงวิ่งตามนังตูบขี้เรื้อนนี้มาทันตรงบริเวณหน้าปากซอยในเวลาไม่นานนัก...  

   จากประสบการณ์อันโชกโชนที่รู้ว่าควรตีตรงตำแหน่งไหนของน้องตูบที่เรียกว่า "จุดตาย" นายวินิตก็หวดไม้หน้าสามเข้าไปอย่างเต็มกำลัง  ...ทีเดียวเองก็ส่งร่างอันไร้กำลังของนังตูบขี้เรื้อนแม่ลูกอ่อนตัวนั้นลงไปนอนดิ้นพลาดๆกับพื้น  ตาเหลือก  ลิ้นห้อย  น้ำหูน้ำตาใหล รอวินาทีสุดท้ายของชีวิตอยู่ตรงนั้นเอง...  

   "ไอ้น้อย...เอ็งรอข้าตรงนี้แหล่ะ"   นายวินิตสั่งน้องชายที่กำลังยืนตะลึงกับเหตุการณ์  
   "อ้าว...พี่   จะไปไหนหล่ะ"  
   "เดี๋ยวเอ็งรอดูมันชักตายอยู่ที่นี่แหล่ะ...ข้าจะรีบวิ่งไปเอามีดแล่เนื้อที่บ้านโน่น  เดี๋ยวคืนนี้เอ็งได้กินเนื้อมัน..."  
   "ก็ไหนพี่บอกว่า ไม่กินเนื้อตูบขี้เรื้อนไง"  


   น้องชายเตือนสติพี่ชาย  

   "เออ...ยกเว้นวันนี้โว้ย...โมโหมันมากจนอยากจะกินเนื้อมันให้หายโมโหว่ะ..."  

   และแล้วนายวินิจก็รีบวิ่งกลับบ้านไป  ปล่อยให้น้องชายยืนตัวสั่นเฝ้าเหยื่ออย่างสงสารแบบจับจิตจับใจ...

   "เออ...นังเริ้อนเอ้ย...ถ้าเอ็งได้ยินที่ข้าพูด และเอ็งยังมีกำลังอยู่  ข้าก็ขอให้เอ็งหนีไปเสียนะ...ก่อนที่พี่ข้าจะกลับมา  คราวนี้เอ็งตายจริงๆแน่..."  

   เหมือนจะรู้ภาษา...นังตูบขี้เรื้อนเจ้ากรรมตัวนั้นค่อยๆคลานกระดึบๆหายเข้าไปในพงหญ้าข้างทางนั่นเอง...  
  
   ...สักครู่ใหญ่...นายวินิตก็วิ่งกลับมา ณ. จุดก่อเหตุ  พร้อมอุปกรณ์แล่เนื้อชุดใหญ่  

   "ไอ้น้อย...มันไม่ตายหรือว่ะ...ทำไมเอ็งไม่เฝ้ามันไว้ให้ข้าวะ..."   เขาตะคอกน้องชายด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว  

   "โธ่...พี่  ผมจะไปทันมันเหรอ  มันรีบวิ่งตะกุยแบบไม่คิดชีวิตอย่างนั้นน่ะ"  

   ทำให้นายวินิตงงงวยกับเหตุการณ์  เพราะไม่เคยมีน้องตูบตัวไหนรอดพ้นจากการตี "จุดตาย" ของเขาไปได้แม้สักตัว...  
   "ไป...ไอ้น้อย รีบตามมันไป  มันคงไปได้ไม่ไกลหรอก...โดนตีขนาดนี้  ถ้าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะว้า..."     ว่าแล้วเขาก็ออกตามหาสุนัขตัวนั้นไปทันที...  

   ...ไม่นาน...  

   เขาและน้องชายก็มาถึงใต้สะพานลอย  มีเสียงสุนัขหลายตัวเห่า  ทั้งสองจึงมุ่งตรงไปยังจุดที่ได้ยินเสียงสุนัขเหล่านั้น  

   ...ภาพที่เขาทั้งสองเห็น   แทบจะทำให้น้อยลมจับ...  

   ...มันเป็นภาพที่นังตูบขี้เรื้อนแม่ลูกอ่อนที่ได้รับบาดเจ็บเจียนตายตัวนั้นกับตูบน้อยๆลูกของมันที่ยังไม่หย่านมอีก 5 ตัวครับ  บางตัวก็ดูดนมที่มีแต่คราบนมแห้งเกรอะกรังเกาะติด  บ้างก็กำลังยื้อแย่งก้อนเนื้อแห้งที่แม่มันคาบมาให้โดยที่มันเองไม่ได้กัดกินเลยแม้แต่น้อย... ที่มันยังไม่ยอมตายเพราะต้องกลับไปให้นมลูก  แม้น้ำนมแห้งกรัง  เอาอาหารไปให้ลูกมัน    

   นายวินิตอ้าปากค้าง   ไม้หน้าสามและอุปกรณ์แล่เนื้อหล่นจากมือเขาเมื่อใดไม่ทราบ  เรียกลูกๆเพื่อให้นม ให้อาหารเป็นครั้งสุดท้าย...นังตูบขี้เรื้อนแม่ลูกอ่อนพยายามอย่างดีที่สุด  


   มันมองผมกับพี่นิตอย่างขอร้อง  ขอให้มันให้นมลูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย...ไม่อยากเชื่อนั่นคือน้ำตาของนังตูบขี้เรื้อน  มันแค่ต้องการให้นมลูกก่อนตาย  


   ...ในยามนั้นสิ่งที่แกเห็นไม่ใช่นังตูบขี้เรื้อนแม่ลูกอ่อน...แต่แกเห็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ที่ทนเจ็บกลับไปหาลูก  แกไม่พูดอะไร...ทุกอย่างจุกอยู่ที่ลำคอ  สายตาอ่อนโยนลง      
   นายวินิตและน้องชายคุกเข่าลงกับพื้น  มีตูบน้อยตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาคลอเคลียกระดิกหางให้  แกอุ้มตูบน้อยตัวนั้นขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า "ขอโทษ...เอาหล่ะ เราจะเลี้ยงดูลูกๆของเจ้าอย่างดีที่สุด  เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง"    

   พูดจบเหมือนกับรู้ภาษา  นังตูบขี้เรื้อนแม่ลูกอ่อนตัวนั้นก็สิ้นใจลงทันที...นายวินิตและน้องชายก็ช่วยกันนำร่างอันไร้วิญญาณของนังตูบขี้เรื้อนแม่ลูกอ่อนตัวนั้นไปฝังที่บ้านของเขาเอง...ด้วยความรู้สึกสำนึกผิด  

   ส่วนตูบน้อยลูกๆของมันเขาได้รับเลี้ยงมันไว้ที่บ้านของเขาเอง...ตั้งแต่นั้นมาแกก็กลายเป็นคนใจดี  ไม่ไล่ยิงนกฆ่าน้องตูบน้องเหมียวอีกเลย  

   "มันอาจมีลูกรออยู่ก็ได้"  แกบอก  

   ...จากนั้นสามปีให้หลัง...ตูบน้อยลูกๆของนังตูบขี้เรื้อนทั้ง 5  โตเต็มวัย  อยู่เฝ้าบ้านให้นายวินิตยามเขาออกไปเยี่ยมคุณแม่ของเขาที่บ้านต่างจังหวัด...  

   "แม่ครับ...แม่จะสอนจะสั่งผมอย่างกับที่แม่เคยสอนผมตอนเป็นเด็กๆก็ได้นะครับ...ผมอยากให้แม่สอนผมอย่างเคยครับ..."      พร้อมกันเขาก็เอามาลัยดอกมะลิอบให้กับคุณแม่ของเขา  และก้มลงกราบแทบเท้า...คุณแม่น้ำตาไหลด้วยความปิติดีใจที่ลูกชายได้กลับตัวเป็นคนใหม่...เป็นคนใหม่อย่างที่ไม่เคยนึกไม่เคยฝันมาก่อน...      
  
   ...แม่แกน้ำตาคลอพูดไม่ออก...  

   ไม่อยากเชื่อ...นังตูบขี้เรื้อนแม่ลูกอ่อนตายไปหนึ่งตัว...กลับทำให้คนใจดำอย่างแกเปลี่ยนไปขนาดนี้...

รักแม่...  





 
 ปลาน้ำจืดไทย   ป่าเขา-ทะเลไทย   เที่ยวจัง!...ตังค์จะหมดแล้ว...

 


Forward  Mail

ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
ความพร้อมนั่นแหล่ะคือกษ์ดี


พุทธพจน์/Sayings of the Buddha
 
 

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]
เรื่องสั้นประทับใจจากน้องตูบ
- เรื่องของ สาม [10 สิงหาคม 2553 15:49 น.]
- สุนัขไซบีเรียน ช่วยตามหาเจ้าของวัย 3 ขวบ [10 สิงหาคม 2553 15:49 น.]
- สุนัขที่น่าสงสาร ตากแดดเฝ้าศพนายหลายชั่วโมง [10 สิงหาคม 2553 15:49 น.]
- ชื่นชมน้ำใจ สาววิศวฯ ม.ศิลปากร ใจบุญหิ้วกล่องยาดูแลสุนัขจรจัดป่วยใกล้ตาย [10 สิงหาคม 2553 15:49 น.]
- "หดหู่! “ไอ้หลง” หมาพันธุ์ผสมนั่งเฝ้าศพเจ้าของหลังตกต้นเงาะดับ" [10 สิงหาคม 2553 15:49 น.]
- กู้ภัยหมา-แมว [10 สิงหาคม 2553 15:49 น.]
- น้ำใจที่ยิ่งใหญ่จากชายชราวัย90 อาชีพขี่สามล้อ [10 สิงหาคม 2553 15:49 น.]
- สุนัขแสนรู้ลากรถล้อออกบิณฑบาตคู่หลวงพ่อ [10 สิงหาคม 2553 15:49 น.]
- “ไอ้ปุย” สุนัขแสนรู้กรุงเก่าช่วยชีวิตเด็กทารกแรกเกิด [10 สิงหาคม 2553 15:49 น.]
- เนื่องจากกฎหมายที่ห้ามเลี้ยงสุนัขที่มีน้ำหนักเกินกำหนด (ตัวใหญ่เกินกำหนด) [10 สิงหาคม 2553 15:49 น.]
ดูทั้งหมด

Copyright@2010 by www.nongtoob.com All right reserved.
Engine by MAKEWEBEASY