สถิติผู้เข้าชม
 ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ 6
 ผู้เข้าชมในวันนี้ 767
 ผู้เข้าชมทั้งหมด 5,470,043
กรุณาฝาก Email ของท่าน
  เพื่อรับข่าวสาร ที่น่าสนใจ
21 ธันวาคม 2567
อา จ. อ. พ. พฤ ศ. ส.
10  11  12  13  14 
15  16  17  18  19  20  21 
22  23  24  25  26  27  28 
29  30  31         
             
 
ใช้กระเป๋าน้ำร้อนลดปวดถูกวิธี
[4 เมษายน 2554 15:21 น.]จำนวนผู้เข้าชม 6107 คน
    
     หากผู้อ่านมีอาการเจ็บปวดเกิดขึ้นตามร่างกาย นอกจากจะพึ่งพายาแก้ปวดหรือยารักษาเฉพาะโรคแล้ว อุปกรณ์ปฐมพยาบาล อย่าง กระเป๋าน้ำร้อน ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้ทุเลาลงได้โดยหลาย ๆ ครอบครัวมักมีกระเป๋าน้ำร้อนติดบ้านไว้ใช้ยามจำเป็น ดังนั้น มุมสุขภาพ-สามัญประจำบ้าน มีวิธีใช้กระเป๋าน้ำร้อนอย่างถูกต้องมาแนะนำ

     สำหรับการใช้กระเป๋าน้ำร้อนชนิดดั้งเดิมที่ต้องเติมน้ำร้อนก่อนใช้นั้น ให้เติมน้ำในปริมาณ ¾ ของกระเป๋า จากนั้นไล่อากาศออกให้หมดแล้วปิดฝาให้สนิท ก่อนใช้ควรตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่าฝาของกระเป๋าถูกปิดแน่นแล้ว โดยการคว่ำกระเป๋า พร้อมสังเกตว่ามีน้ำไหลซึมออกมาหรือไม่ เมื่อเติมน้ำร้อนลงไปแล้วให้สัมผัสผิวนอกของกระเป๋าว่าอุ่นร้อนพอทนได้หรือไม่ โดยอุณหภูมิที่พอเหมาะ ไม่ควรเกิน 45 องศาเซลเซียส ก่อนวางลงบนตำแหน่งที่ปวด ผู้อ่านจำเป็นต้องหุ้มพันกระเป๋าน้ำร้อนด้วยผ้าที่หนา-บางพอสมควร โดยไม่ควรประคบกระเป๋าน้ำร้อนกับผิวหนังโดยตรง เพราะอาจเป็นอันตรายกับเนื้อเยื่อบริเวณนั้น ๆ ระยะเวลาในการกระเป๋าน้ำร้อนแต่ละครั้งอยู่ระหว่าง 20-30 นาที หลังใช้งานต้องเทน้ำออกจากกระเป๋าแล้วล้างทำความสะอาด จากนั้นนำไปตากโดยคว่ำปากกระเป๋าลง เมื่อแห้งสนิท ควรทำให้กระเป๋าพองลมก่อนปิดฝาและเก็บเข้าที่

     การใช้กระเป๋าน้ำร้อนสามารถประคบได้ทั่วทั้งร่างกาย มักใช้เมื่อรู้สึกปวดท้อง ส่วนผู้ที่เกิดอาการปวดเนื่องจากอุบัติเหตุ มีรอย ฟก ช้ำ บวม ไม่ควรประคบร้อนทันที แต่ควรประคบเย็นก่อน เพื่อให้หลอดเลือดหดตัว และอาการบวมลดลง แล้วจึงใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบตาม เพื่อขยายหลอดเลือดและลดความเจ็บปวด 

     หากจำเป็นต้องประคบร้อนบรรเทาอาการปวด แต่ไม่สามารถหากระเป๋าน้ำร้อนมาใช้ปฐมพยาบาลได้ ผู้อ่านสามารถนำผ้าสะอาดชุบน้ำร้อนแล้วมัดขมวดเป็นลูกกลมคล้ายลูกประคบมาใช้ทดแทนกระเป๋าน้ำร้อนได้

ที่มา : Forword Mail

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]
สาระความรู้ทั่วไปสำหรับเจ้าของน้องตูบ
- อาหารแสลง ที่ควรเลี่ยงเมื่อป่วย [4 เมษายน 2554 15:21 น.]
- พืชขาดธาตุอาหารอะไร ?..ใส่ใจสักนิด... [4 เมษายน 2554 15:21 น.]
- ปวดท้อง...ลางบอกโรคร้ายของคุณ [4 เมษายน 2554 15:21 น.]
- การรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำและลดความเสี่ยง จากโรคมะเร็ง [4 เมษายน 2554 15:21 น.]
- ซอสปรุงรส [4 เมษายน 2554 15:21 น.]
- รู้จักไหม?...“ต้นผึ้ง” มีหนึ่งเดียวที่ราชบุรี [4 เมษายน 2554 15:21 น.]
- เลือดจระเข้ [4 เมษายน 2554 15:21 น.]
- การทำน้ำด่าง (อัลคาไลน์) สำหรับดื่มอย่างง่าย [4 เมษายน 2554 15:21 น.]
- กิน ‘สมอ’ ดีเสมอ [4 เมษายน 2554 15:21 น.]
- ปัสสาวะหลวงพ่อ [4 เมษายน 2554 15:21 น.]
ดูทั้งหมด

Copyright@2010 by www.nongtoob.com All right reserved.
Engine by MAKEWEBEASY