การพักผ่อน

สถิติผู้เข้าชม
ขณะนี้มีผู้เข้าใช้	4
ผู้เข้าชมในวันนี้	771
ผู้เข้าชมทั้งหมด	5,470,047

กรุณาฝาก Email ของท่าน
เพื่อรับข่าวสาร ที่น่าสนใจ

21 ธันวาคม 2567
อา	จ.	อ.	พ.	พฤ	ศ.	ส.
1	2	3	4	5	6	7
8	9	10	11	12	13	14
15	16	17	18	19	20	21
22	23	24	25	26	27	28
29	30	31

การพักผ่อน
[17 มกราคม 2554 10:17 น.]จำนวนผู้เข้าชม 5824 คน

Early to bed and early to rise make a man healthy, wealthy, and wise.
การนอนแต่หัวค่ำและตื่นตอนเช้าตรู่ จะทำให้มีสุขภาพดี สมบูรณ์พูนสุข และเฉลียวฉลาด
โดย เบนจามิน แฟรงคลิน นักวิทยาศาสตร์เอกของโลก

นอนเพื่อสุขภาพ
     การนอนเป็นกิจวัตรที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งในชีวิตคนเรา ไม่แพ้การหายใจ ดื่มน้ำ หรือกินอาหาร เพราะโดยเฉลี่ยแล้วเราใช้เวลา 1 ใน 3 ของชีวิตไปกับการนอนพักผ่อน
     เหตุผลหลักที่คนเราต้องนอนหลับก็คือ เพื่อให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายได้หยุดพัก ในระหว่างที่เราหลับสนิมนั้น ชีพจรจะเต้นช้าลง ความดันเลือดลดลง เท่ากับว่าหัวใจทำงานน้อยลง กล้ามเนื้อทุกส่วนอ่อนตัวลงสู่สภาวะผ่อนคลาย ภายในร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมา ฮอร์โมนนี้ช่วยให้เด็ก ๆ เจริญเติบโตได้ดี และยังช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูกในวัยผู้ใหญ่ หากร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เมื่อตื่นขึ้นมาจะรู้สึกสดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอนระหว่างวัน ร่างกายกระฉับกระเฉง ความทรงจำดี สมองปลอดโปร่ง จึงคิดและตัดสินใจได้ดี
     ในทางกลับกันคนที่นอนหลับไม่เพียงพอ หรือนอนหลับไม่สนิท ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ทิซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกิดจากความเครียด และยังหลั่งสารก่อการอักเสบออกมา ส่งผลให้เซลล์ในร่างกายเสื่อมโทรมเร็วก่อนวัย นอกจากนี้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายจะทำงานลดลงจึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคได้ง่าย คนที่นอนหลับไม่เพียงพอ เมื่อตื่นขึ้นมาจะรู้สึกอ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย ง่วงเหงาหาวนอนอยู่เสมอ สมองตื้อ ทำงานได้ไม่เต็มที่
     นอกจากการนอนไม่เพียงพอจะมีผลเสียต่อสุขภาพแล้ว การนอนหลับมากเกินพอดีก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพเช่นกัน เพราะร่างกายจะอ่อนเพลียง่วงเหงาหาวนอนตลอดทั้งวัน ซึมเศร้า ไม่มีเรี่ยวแรง ไม่กระฉับกระเฉงและยังมีอาการหน้ามืดเมื่อต้องเปลี่ยนอิริยาบถ

นอนนานเท่าไรจึงจะดี
     ช่วงเวลาการนอนหลับของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน จะแตกต่างกันตามช่วงอายุและสภาพร่างกาย จากการศึกษาพบว่าระยะเวลานอนโดยเฉลี่ยของแต่ละวัยมีดังนี้
          - เด็กแรกเกิดจะนอนหลับประมาณวันละ 16 - 18 ชั่วโมง
          - อายุประมาณ 1 ขวบ จะนอนหลับประมาณวันละ 14 ชั่วโมง
          - อายุประมาณ 5 ขวบ จะนอนหลับประมาณวันละ 12 ชั่วโมง
          - ช่วงวัยรุ่นจะนอนหลับประมาณวันละ 10 - 12 ชั่วโมง
          - ช่วงอายุ 30 - 50 ปี จะนอนหลับประมาณ 4 - 1 ชั่วโมง
          - อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป จะนอนหลับตอนกลางคืนประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง แต่จะมีการงีบหลับช่วงกลางวัน
     วัยสูงอายุมาก ๆ จะมีพฤติกรรมหลับทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นเวลานาน ซึ่งคล้ายกับเด็กเล็ก
     ในความเป็นจริงแล้ว ระยะเวลาในการนอนไม่สำคัญเท่ากับคุณภาพของการนอน เพราะหากนอนหลับนาน แต่หลับไม่สนิท ร่างกายก็ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

เตรียมนิทราอย่างสุขสันต์
     การนอนอย่างมีความสุขและมีคุณภาพสามารถสร้างได้ไม่ยาก เพียงปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
          - ออกกำลังกายเบา ๆ ในตอนเย็น จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและเกิดความรู้สึกอยากนอนพัก
          - กินอาหารมื้อค่ำแต่พออิ่ม และเลือกกินอาหารที่ย่อยได้ง่ายและรสชาติไม่จัดจนเกินไป จะช่วยให้สบายท้อง
          - งดดื่มน้ำชา กาแฟ โกโก้ น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มชูกำลังในช่วงบ่าย
          - ดื่มนมอุ่น ๆ ก่อนเข้านอนจะช่วยให้สบายท้องและผ่อนคลาย
          - อาบน้ำและแปรงฟันให้สะอาดก่อนเข้านอน
          - ไม่ดูโทรทัศน์หรือภาพยนตร์ก่อนเข้านอน 2 - 3 ชั่วโมง
          - ทำใจให้สบาย นอนหลับตาด้วยการหายใจเข้า - ออกยาว ๆ และผ่อนคลายอวัยวะทุกส่วนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า หรือจะใช้วิธีนั่งสมาธิก่อนเข้านอนก็ได้
          - สร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการนอน ด้วยการปิดไฟ ปิดเสียงต่าง ๆ ปิดโทรศัพท์มืถือ ปรับอุณหภูมิห้องให้พอดี อาจใช้กลิ่นหอมจาง ๆ จากสมุนไพรช่วยสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลายด้วยก็ได้

ที่มา : หนังสือ "สุขภาพดี ราศีจับ" โดย MK