เลือดจระเข้
เลือดจระเข้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการศึกษาพบว่ามีคุณสมบัติ ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของ เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และโปรโตซัวได้ การศึกษาหนอนพยาธิในเลือดและลำไส้จระเข้ที่เพาะเลี้ยงในประเทศไทย พบว่าปราศจากหนอนพยาธิในเลือดและลำไส้ และเมื่อทดสอบความปลอดภัยในสัตว์ทดลองที่บริโภคเลือดจระเข้ พบว่าไม่มีพิษแบบเฉียบพลัน กึ่งเรื้อรังและเรื้อรัง และไม่ก่อให้เกิดพยาธิสภาพในไต ตับ และอวัยวะภายในของสัตว์ทดลอง
ดังนั้น เลือดจระเข้ จึงมีประโยชน์ทางยาประเภทหนึ่งเหมือนกัน เลือดจระเข้ ของเราที่เจาะดูดโดยกระบวนการปลอดเชื้อจาก โรงชำแหละจระเข้มาตรฐานผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยวิธีพาสเจอร์ไรเซชั่น แล้วนำไประเหิดแห้งด้วยกระบวนการฟรีส-ดราย (Freeze Dry) จนได้เลือดจระเข้แห้งบดละเอียดที่สามารถนำไป บรรจุในแคปซูลเลือดจระเข้ ใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เลือดจระเข้ อุดมพร้อมด้วยโปรตีนและ ธาตุเหล็ก เสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น
ประโยชน์เลือดจระเข้
หากรับประทานประจำเป็นอาหารเสริมบำรุงร่างกาย จะมีประโยชน์
ช่วยเสริมธาตุเหล็กในผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง ชนิดขาดธาตุเหล็ก เพราะมีธาตุเหล็ก 10% ของปริมาณที่ต้องการต่อวัน
มีโปรตีนช่วยให้ร่างกายแข็งแรง กระปี้กระเป่า สดชื่น ลดความเครียด
รักษาความสมดุลของปฏิกิริยาเคมีในร่างกาย
ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ทำให้แผลหายเร็วขึ้นเนื่องจาก โปรตีน Crocosin VI *
* คุณสมบัติพิเศษอยู่ระหว่างศึกษาต่อยอดงานวิจัยคือช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ทำให้แผลหายเร็วขึ้นเนื่องจาก โปรตีน Crocosin VI ซึ่งเป็น antimicrobial peptide เปปไทด์จากพลาสมาของเลือดจระเข้ สามารถทำลายเชื้อ Salmonella typhi และ Staphylococcus aureus ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มั่นใจได้ 100% บริษัท ศรีราชาโมด้า โดยบุคคลากรที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเฉพาะในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกจระเข้ น้ำจืดพันธุ์ไทย ที่มีสุขภาพดีและเก็บเลือดจระเข้ ด้วยเครื่องมือที่ออกแบบเป็นระบบปิดพิเศษเพื่อป้องกันการปนเปื้อน จากนั้นผ่านเข้าสู่กระบวนการผลิตทันทีเพื่อคงความสดใหม่เละไม่มีการเติมสาร ใดๆ อีก ระหว่างในการผลิต วัตถุดิบ คัดสรรมาจากจระเข้อายุ 3-4 ปี เลี้ยงในระบบฟาร์มปิด ตามมาตรฐาน GAP ของกรมประมง ปลอดภัยจากยาปฏิชีวนะ ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต และสารเร่งเนื้อแดง เพราะการเลี้ยงจระเข้ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชนิดใดๆอย่างต่อเนื่องเหมือนปศุ สัตว์ชนิดอื่นๆ จึงมั่นใจได้ว่าสะอาด ปลอดภัย และมีประโยชน์
การผลิตแคปซูลเลือดจระเข้
การผลิต แคปซูลเลือดจระเข้ ผ่านกระบวน การผลิตด้วยกรรมวิธีที่ออกแบบเฉพาะเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่สะอาด ปลอดภัยต่อการบริโภค รวมถึงรักษาคุณภาพโปรตีนไว้เป็นอย่างดี เป็นไปตามมาตรฐาน GMP ที่ควบคุมและตรวจสอบโดย กองตรวจสอบและควบคุมผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข สำหรับ การดูดซึม เหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง MODAPLAS® เป็นแหล่งของธาตุเหล็กชนิดที่ร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้ดี และ ไม่ถูกรบกวนการดูดซึมจากปัจจัยต่างๆ เช่น เมื่อเทียบกับเหล็กที่มาจากพืชและสารสังเคราะห์หลายชนิด
เลือดจระเข้ คืออะไร ?
เลือดจระเข้ คือ อาหารเสริมเลือดจระเข้ชนิดแคปซูล ผลิตจากเลือดจระเข้ 100 % อุดมไปด้วยธาตุเหล็กและโปรตีนสูง ไม่มีสารเจือปนใดๆ ได้รับ อ.ย เป็นรายแรกของโลก
เลือดจระเข้ใช้เพื่ออะไร
สำหรับบุคคลทั่วไป : ใช้ทานเป็นอาหารเสริมบำรุงร่างกาย และช่วยเพิ่มสมรรถภาพให้ร่างกายในทุกๆด้าน
สำหรับผู้ป่วย : ช่วยเสริมธาตุเหล็กในภาวะผู้ที่ป่วยเป็นโรคโลหิตจาง , บรรเทาอาการหอบหืด , ภูมิแพ้ และช่วยเพิ่มเกล็ดเลือดในผู้ป่วยโรคมะเร็ง
สำหรับนักกีฬา : เพิ่มความทนทานทำให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น เตรียมความพร้อมให้กับร่างกาย
เลือดจระเข้เหมาะกับใคร
- ผู้ที่รักสุขภาพ
- ผู้ที่มีภาวะขาดธาตุเหล็ก เช่น ผู้ป่วยโรคโลหิตจาง
- ผู้ทีมีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกัน เช่น หอบ,หืด,ภูมิแพ้,ผู้ป่วยระยะพักฟื้น,ผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ,ผู้ที่ต้องฉายแสงเพื่อรักษาโรคมะเร็ง
เลือดจระเข้ ขนาดรับประทานอย่างไร
- กรณีร่างกายปกติ : ทานวันละ 1 เม็ด เช้าหรือเย็น แต่ควรทานให้เป็นระบบ
- กรณีผู้ป่วย : ควรทานอย่างน้อยวันละ 2 เม็ด เช้าหรือเย็น และควรทานให้เป็นระบบ (ยิ่งทานเยอะยิ่งเห็นผลเร็ว)
เลือดจระเข้ นานแค่ไหนถึงจะเห็นผล
- กรณีร่างกายปกติ : ประมาณ 1-2 เดือน หรือ มากกว่านี้แล้วแต่ร่างของแต่ละบุคคล ผู้ทานจะรู้สึกได้ว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น รู้สึกสดชื่นกระปี้กระเป่ามากกว่าเดิม
- กรณีผู้ป่วย : จะเห็นผลไวกว่าผู้ที่ร่างกายปกติ เพราะร่างกายจะค่อย ๆ ดีขึ้นจนผู้ทานรู้สึกได้จากอาการป่วยที่บรรเทาลง ซึ่งอาจเห็นผลภายใน 3-4 สัปดาห์ ก็ได้
เลือดจระเข้ เด็กและสตรีมีครรภ์รับประทานได้เปล่า
ทานได้ แต่เด็กต่ำกว่า 5 ขวบและสตรีมีครรภ์ควรได้รับการปรึกษาจากแพทย์ก่อน
เลือดจระเข้ ถ้าเป็นโรค… ทานได้เปล่า
- ดูเป็นกรณี แต่ถ้าเป็นโรคที่เราไม่รู้ควรแนะนำให้ผู้ป่วยปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
สาเหตุที่นำเลือดจระเข้มาสกัด
เลือดจระเข้ที่นำมาสกัด จะใช้วิธีการเจาะเลือดโดยเข็มแสตนเลสที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ นำมาเก็บเลือดจระเข้ที่มีอายุอย่างน้อย 3 ปีและเป็นจระเข้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง เมื่อเจาะเลือดแล้วจะเว้นระยะเวลาประมาณ 3 เดือนจึงจะนำจระเข้มาเจาะเลือดได้อีก (เหมือนคนที่บริจาคเลือด) เลือดจระเข้ 10.5 กก จะนำมาทำเลือดจระเข้แคปซูลได้ประมาณ 3,500-4,000 เม็ด (ขนาด 250 มิลลิกรัม)
ก่อนเจาะเลือดจระเข้ จะต้องทำความสะอาดบริเวณที่เจาะด้วย 70 %แอลกอฮอล์ เก็บเลือดโดยใช้อุปกรณ์ และภาชนะที่ผ่านการฆ่าเชื้อ และเก็บเลือดในภาชนะปิด เพื่อให้ได้เลือดที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อน จากนั้นนำเลือดที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว มาผ่านกระบวนการระเหิดแห้ง (Freeze Drying) เพื้อรักษาคุณภาพองค์ประกอบโปรตีนที่สำคัญในเลือดจระเข้
นำเลือดจระเข้ระเหิดแห้งที่ได้นำมาบดให้ละเอียด โดยภาชนะที่ผ่านการฆ่าเชื้อ แล้วบรรจุในแคปซูลภายใต้ตู้ควบคุมการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งปัจจุบันได้มีการใช้แคปซูลที่ผลิตจากธัญพืช นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มาใช้ในการบรรจุเลือดจระเข้ ซึ่งจะเป็นแคปซูลที่ไม่มีสารตกค้าง หรือสะสมในร่างกาย
สาเหตุที่นำเลือดจระเข้มาสกัด เพราะเห็นว่าเลือดจระเข้เป็นสัตว์ที่แข็งแรง ไม่ค่อยเป็นอะไรง่ายๆ แม้จะอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่ไม่ค่อยสะอาด หรือเมื่อต่อสู้กันจนบาดเจ็บ แผลก็ไม่เคยเน่า และแผลกลับหายได้เองอย่างรวดเร็ว จึงสันนิษฐานว่าเลือดจระเข้จะมีสารอาหารบางอย่างที่มีคุณสมบัติพิเศษ ซึ่งในหลายประเทศ ทั้ง ญี่ปุ่น จีน หรือแม้แต่อเมริกายังให้ความสนใจ ซึ่งรองศาสดาจารย์เดอกเตอร์วิน ได้เริ่มทำการวิจัยมาตั้งแต่ปี 2542 ก่อนจะมารู้จักกับรุ่งทวีชัยฟาร์มจากรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งเมื่อ 6 ปีที่แล้ว และได้ร่วมกันวิจัยจนได้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเลือดจระเข้อย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน...
Create By: น้องตูบ www.nongtoob.com
|