|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
สถิติผู้เข้าชม
|
ขณะนี้มีผู้เข้าใช้
|
6
|
ผู้เข้าชมในวันนี้
|
826
|
ผู้เข้าชมทั้งหมด
|
5,470,102
|
|
|
|
|
21 ธันวาคม 2567
|
อา |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ |
ศ. |
ส. |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 |
31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ความสุข
[21 กันยายน 2553 15:41 น.]จำนวนผู้เข้าชม 6462 คน |
|
การศึกษาเพื่อสร้างคนของเราทุกวันนี้ ต้องปูพื้นฐานด้วยศีลธรรมและใช้ศีลธรรมเป็นแกนนำเพื่อการกระจายการศึกษา
เราจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมีการแข่งขันกันในสิ่งที่ดีในระบบที่สร้างสรรค์ อยู่ในหลักของเกมกีฬา รู้จักหน้าที่ รู้จักรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงในทีมของตนเอง แต่ต้องมีความรับผิดชอบต่อเกมการแข่งขันนั้นทั้งเกม แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุเป้าหมายของทุกฝ่าย
สังคมที่ปราศจากศีลธรรมก็เปรียบเสมือนกีฬาที่ปราศจากกติกาซึ่งชอบด้วยเหตุผล
ทีมกีฬาซึ่งนักกีฬาไม่รู้จักหน้าที่ ทีมก็ย่อมจะไม่เป็นทีม ยิ่งแต่ละคนต่างก็ถือว่าเก่งกว่าคนอื่น ก็เลยไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ความพ่ายแพ้ของทีมกีฬานั้นก็จะมาถึงในที่สุด เสมือนเราอยู่ในสังคมโดยไม่รู้หน้าที่ ไม่เคารพในกติกา มองจากตนเองอย่างยึดถือมั่นว่า ไม่มีใครจะทำได้ดีเท่าเรา ฝืนธรรมชาติของทีมในทุก ๆ เรื่อง สังคมก็จะไปไม่รอด ชาติบ้านเมืองก็ไปไม่รอด และตัวเราเองก็ไปไม่รอด
ทุกคนปรารถนาความสุขอันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ทุกรูปทุกนาม แต่บางคนก็รักที่จะเดินไปสู่หลายทางชีวิตในด้านปรัชญาเพื่อหาความสุข แต่ถ้าหากแนวดำเนินชีวิตของคนจำนวนมากขึ้นมุ่งไปสู่การหาความสุขแบบตัวใครตัวมันแล้ว ด้วยธรรมชาติของเรา เรายังต้องอยู่ร่วมกันอยู่ แล้วเราจะสุขได้อย่างไร
ขอให้ทุกคนจงหันมาวิเคราะห์กันให้ถ่องแท้ ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วหิ้วกระเป๋าเงินกระเป๋าทองติดตัวมาด้วย และไม่มีใครที่ตายแล้วเอาอะไรไปได้สักอย่างเดียว
ทุกคนเกิดมาก็แสวงหาความสุข อยากได้ความสุข แต่ความสุขนั้นต้องอยู่บนหลักของธรรมชาติ จะฝื่นธรรมชาติไม่ได้
คนที่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น กอบโกยโน่น กอบโกยนี่ นิยมสร้างความร่ำรวยให้แก่ตนเอง คือคนที่สร้างความลืมตัว ลืมความเป็นมนุษย์ของตัวเอง และปฏิบัติตนขัดกับหลักธรรมชาติของการอยู่ร่วมกัน ไม่ได้ทำอะไรให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองอย่างแท้จริง ลักษณะเช่นนี้มีแต่คอยคิดว่าเมื่อไหร่จะใหญ่โต มีอำนาจ มีเงิน มีการสรรเสริญเยินยอ และยิ่งมียิ่งได้ก็ยิ่งหลงมัวเมามากขึ้น หรือพูอย่างรวมๆ ก็คือการหลงทางชีวิต
ถ้าหากพิจารณาตนเองแล้ว ชีวิตนี้ก็มีอยู่เพียงชีวิตเดียว เวลาที่มีชีวิตอยู่ของแต่ละคนก็มีขีดจำกัด ถ้าหากใช้เวลาเดินหลงทางไปเสียนาน ก็จะเหลือเวลาที่จะเดินถูกทางน้อยลง บางคนก็เดินหลงทางไปจนตายก็เท่ากับว่าเกิดมาหาคุณค่าชีวิตอะไร แท้จริงไม่ได้เลย อยู่แต่บนความจอมปลอมเท่านั้นเอง
คนเราทุกคนที่เกิดมาจำเป็นต้องมีการดิ้นรน แต่การดิ้นรนด้วยเหตุผล ด้วยเกณฑ์ของมนุษยธรรมย่อมเป็นผลดี คนเราบางคนอาจดิ้นรนด้วยอารมณ์ คิดอะไรต่ออะไรสั้น ๆ คิดในทางเอาเปรียบผู้อื่น และคิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้ คนอื่นเขาสู้ไม่ได้
จงอย่าลืมว่า ในธรรมชาตินั้น ยังมีสิ่งหนึ่งซึ่งเรามองไม่เห็นด้วยตาแต่มีผล มีส่วน ให้สิ่งทั้งหลายซึ่งขัดต่อหลักธรรมชาติ คลี่คลายตัวเองไปในทางที่ถูกต้องได้ นั่นคือ ' เวลา'
ใครก็ตามที่ทำอะไรด้วยอารมณ์ผิดทำนองคลองธรรม วันหนึ่งข้างหน้า เมื่อความถูกต้องประจักษ์ออกมา ผู้ที่ได้กระทำผิดไว้ก็จะไม่มีทางเลี่ยงที่จะรับกรรมนั้นได้เลย
ที่มา : หนังสือธรรมะ ธรรมชาติ โดย ศ.ระพี สาคริก |
|
|
|