|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
สถิติผู้เข้าชม
|
ขณะนี้มีผู้เข้าใช้
|
8
|
ผู้เข้าชมในวันนี้
|
809
|
ผู้เข้าชมทั้งหมด
|
5,470,085
|
|
|
|
|
21 ธันวาคม 2567
|
อา |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ |
ศ. |
ส. |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 |
31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
จะรู้ได้อย่างไรว่า...เป็นโรคฟันผุ
[17 สิงหาคม 2553 18:05 น.]จำนวนผู้เข้าชม 7636 คน |
|
ปกติฟันเราจะมีสีขาวอมเหลืองและผิวฟันเรียบ แต่ถ้าเป็นรอยขาวขุ่นเมื่อเทียบสีกับสีฟันปกติ มีจุดสีดำบนฟัน หรือฟันเป็นรูและมีเศษอาหารติดอยู่ด้วยแล้วมักจะปวดฟันอยู่บ่อยๆ ถ้าใครมีอาการอย่างที่ว่ามาแสดงว่า...ฟันผุชัวร์
โรคฟันผุเกิดขึ้นได้อย่างไร
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ผิวฟัน ทำให้ผิวฟันมีการสูญเสียแร่ธาตุ สาเหตุมาจากกรดที่เกิดจากเชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่ในคราบฟัน มีลักษณะเหมือนแผ่นฟิมล์บางๆ เกาะติดแน่นกับผิวฟัน เมื่ออยู่ในช่องปากนานๆเป็นเหตุให้ฟันมีการสูญเสียแร่ธาตุไปมากจึงเกิดฟันผุขึ้น
คราบขาวๆเหลืองๆที่ติดตามคอฟันหรือซอกฟันมันคืออะไรนะ
ถ้าคนทั่วไปจะเรียกขี้ฟัน แต่ถ้าคุณหมอฟันเค้าจะเรียกคราบจุลินทรีย์ค่ะ แล้วคราบจุลินทรีย์ก็คือ เชื้อโรค เพราะฉะนั้นขี้ฟันจะประกอบไปด้วยสารพัดเชื้อโรคที่มาเกาะกลุ่มยึดติดกันแน่นอยู่ที่ตัวฟันและผิวของเหงือก ไอ้บรรดาเชื้อโรคที่อยู่ในขี้ฟันนี้แหล่ะเป็นตัวการทำให้เกิดโรคฟันผุและโรคเหงือกอักเสบที่ทำให้มีกลิ่นปาก
วิธีกำจัดคราบจุลินทรีย์ให้หมดไปหล่ะ
ข้อแรกเลยนะคะ ควรทำความสะอาดฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหารด้วยการแปรงฟัน(เบาๆ)ให้ทั่วถึง ทั้งด้านนอก-ด้านในและบริเวณฟันที่ใช้เคี้ยวอาหารบ่อยๆ รวมทั้งใช้อุปกรณ์เสริมขัดฟัน เช่น ไหมขัดฟันที่ช่วยกำจัดคราบจุลินทรีย์ตามซอกฟันที่แปรงเข้าไม่ถึง และสิ่งที่สำคัญคือการเลือกรับประทานอาหารด้วย อาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลเป็นต้นเหตุให้คราบจุลินทรีย์สร้างกรดขึ้นมาได้บ่อยจนก่อให้เกิดฟันผุ ควรเลือกรับประทาน ผัก ผลไม้ นม เนย ถั่ว และเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยๆจะดีกว่านะคะ แต่ถ้าอดใจไม่ไหวเมื่อทานเสร็จแล้วก็ควรแปรงฟันค่ะ
ฟลูออไรด์ช่วยให้ฟันไม่ผุได้จริงหรือ
จริงสิคะ เราลองสังเกตดูว่าในยาสีฟันทุกยี่ห้อจะมีส่วนผสมของฟูออไรด์อยู่ด้วย เพราะฟลูออไรด์เป็นแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อฟันโดยตรง ช่วยให้ฟันแข็งแรง และป้องกันฟันผุได้จริง
ป้องกันฟันผุอย่างไร
1. งดอาหารหวาน ลูกอม ท็อฟฟี่ หรือถ้ากินแล้วควรบ้วนปาก แฟรงฟันทุกครั้ง
2. แปรงฟันให้ถูกวิธี
3. ตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ และย้อมสีคราบฟันจะช่วยกำจัดคราบจุลินทรีย์ที่ติดค้างตามตัวฟันได้
4. สำหรับคนที่ผิวเคลือบฟันไม่แข็งแรง และมีความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุสูงควรใช้ฟลูออไรด์ เพื่อช่วยให้ฟันคงทนต่อกรด
5. ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจช่องปากและฟันทุกๆ 6 เดือน
สำหรับใครที่ฟันผุแล้ว ขอแนะนำว่าหมอฟันเท่านั้นที่ช่วยเราได้...เพราะว่า
- หากอยู่ในอาการเริ่มต้นหมอฟันสามารถรักษาฟันผุเราได้
- ฟันที่ผุเป็นโพรงไม่มากนัก หมอจะอุดฟันให้ เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลาม
- สำหรับฟันกรามของใครอยู่ในอาการน่าเป็นห่วง หรือกลัวว่าฟันกรามจะผุ หมอจะใช้วัสดุเคลือบหลุมร่องฟันไว้เพื่อป้องกันฟันผุ
- ส่วนฟันที่ผุทะลุถึงโพรงประสาทฟัน และเกิดฝีหนองที่ปลายรากฟันอาจทำให้หน้าบวมได้ หมอจะเจาะระบายหนองและรักษารากฟัน แต่ถ้ารักษาไม่ได้เพราะอาการลุกลามมากขึ้นก็ต้องถอนฟันค่ะ
เมื่อรู้สาเหตุของการเกิดโรคฟันผุแบบนี้แล้ว ก็อย่ามัวปล่อยให้ฟันผุนะคะ ควรรีบดูแลเอาใจใส่ฟันและช่องปากให้มีสุขภาพฟันที่ดี เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันเราต้องโดนถอนหมดก่อนวัยอันควรนะจ๊ะ...เดี๋ยวยิ้มแล้วฟันไม่สวย...
ที่มาของบทความดีๆ : www.kroobannok.com
|
|
|
|