สถิติผู้เข้าชม
 ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ 2
 ผู้เข้าชมในวันนี้ 64
 ผู้เข้าชมทั้งหมด 5,206,172
กรุณาฝาก Email ของท่าน
  เพื่อรับข่าวสาร ที่น่าสนใจ
27 เมษายน 2567
อา จ. อ. พ. พฤ ศ. ส.
 
10  11  12  13 
14  15  16  17  18  19  20 
21  22  23  24  25  26  27 
28  29  30         
             
 
น้ำคือชีวิต
[6 มกราคม 2554 15:30 น.]จำนวนผู้เข้าชม 6476 คน
    
     ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณ 70% ของน้ำหนักตัว อวัยวะสำคัญในร่างกายล้วนมีน้ำเป็นองค์ประกอบหลัก เช่น สมองมีน้ำ 70% ปอดมีน้ำ 90% ในกล้ามเนื้อมีน้ำ 75% ในกระดูกมีน้ำ 22% ในเลือดมีน้ำ 83% 
     น้ำทำหน้าที่ลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนให้ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ช่วยในกระบวนการเผาผลาญ ช่วยการทำงานของอวัยวะภายใน ช่วยขับถ่ายของเสีย รักษาระดับอุณหภูมิในร่างกาย และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
     โดยปกติแล้วร่างกายจะสูญเสียน้ำตลอดเวลาเนื่องจากการหายใจ และกระบวนการทำงานต่าง ๆ ในร่างกาย เมื่อร่างกายเริ่มสูญเสียน้ำไปเพียงแค่ 2% ก็จะทำให้รู้สึกกระหาย เฉื่อยชา ไม่ตื่นตัว ผิวหนังแห้ง อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้น หายใจสั้นลง และเหงื่อออกน้อย ถ้าเราปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำต่อไปถึง 5% ก็จะมีอาการมึนศรีษะ ง่วงนอน คลื่นไส้ เมื่อถึง 10% เราจะเริ่มเพ้อ และถ้าร่างกานสูญเสียน้ำจนถึง 15% หรือขาดน้ำติดต่อกัน 3 วัน เราก็จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ดังนั้น เราควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตร
 
ลืมตา อย่าลืมดื่มน้ำ
     การดื่มน้ำเพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่นั้น ต้องคำนึงถึงปริมาณและวิธีการดื่มด้วย วิธีดื่มน้ำที่ถูกต้องมีดังนี้
          - ลืมตา อย่าลืมดื่มน้ำ เริ่มต้นวันใหม่หลังตื่นนอนด้วยการดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาวครึ่งลูก 1-2 แก้ว เพื่อล้างสารพิษที่คั่งค้างอยู่ในอวัยวะสำคัญ ๆ เช่น ตับ ไต และช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร น้ำมะนาวจะช่วยลดไขมันชนิดไม่ดี (LDL) ลงได้
          - กินข้าว ไม่ดื่มน้ำ ไม่ควรดื่มน้ำขณะกินอาหาร หรือดื่มน้ำทันทีหลังกินเสร็จ เพราะน้ำจะทำให้น้ำย่อยเจือจาง
          - น้ำอุณหภูมิห้องดีต่อสุขภาพ การดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องส่งผลดีต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ช่วยกระตุ้นการทำงานของไตให้เป็ฯปกติ เพิ่มอัตราการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ช่วยปรับความเข้มข้นของเลือด
          - ค่อย ๆ จิบ อย่าใจร้อน การดื่มน้ำให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรค่อย ๆ จิบ เพื่อให้น้ำผ่านเข้าไปหล่อเลี้ยงถึงระดับเซลล์ได้อย่างทั่วถึง
     ที่สำคัญ ไม่ควรรอจนรู้สึกกระหาย เพราะความกระหายเป็นอาการที่แสดงให้รู้ว่าร่างกายอยู่ในสภาวะขาดน้ำแล้ว

น้ำกับการบำบัด
     ในภาวะที่ร่างกายไม่เป็นปกติ การดื่มน้ำจะช่วยบรรเทาอาการได้เป็นอย่างดี
          - ดื่มน้ำลดไข้ เมื่อเป็นไข้ตัวร้อน ให้ดื่มน้ำอย่างน้อยหนึ่งแก้วทุกหนึ่งชั่วโมง เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไปทางผิวหนัง และช่วยลดอุณหภูมิ
          - จิบน้ำอุ่นไล่กรดในกระเพาะ หากรู้สึกอึดอัด จุกเสียด หรืออาหารไม่ย่อย ลองจิบน้ำอุ่นสักแก้วจะช่วยบรรเทาอาการได้
          - ดื่มน้ำป้องกันหน้ามืด การดื่มน้ำจะช่วยเพิ่มปริมาณเลือด ลดอัตราการเต้นของหัวใจ และกระตุ้นระบบไหลเวีบยโลหิตที่ไปเลี้ยงสมอง จึงช่วยลดอาการหน้ามืด เป็นลม ใจสั่น
          - ดื่มน้ำแก้เกาต์ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยเจือจางเลือดและระดับกรดยูริกที่ปะปนอยู่ในเลือดให้ถูกขับออกไปพร้อมปัสสาวะ

น้ำผักผลไม้พลังสุขภาพ
     น้ำผักผลไม้มีมากมายหลายสูตร แต่ละสูตรก็จะมีสรรพคุณต่างกันไปตามชนิดของส่วนผสม เช่น
          - น้ำสับปะรด + ผักกาดหอม + เซเลอรี คุณค่าจากธรรมชาติที่ช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย
          - น้ำสับปะรด + ขิง + เซเลอรี คลายกรด ลดแน่นเฟ้อ
          - น้ำแตงกวา + กีวี ทำให้กระปรี้กระเปร่าในยามที่รู้สึกอ่อนล้า และร่างกายสูญเสียน้ำ
          - น้ำแตงกวา + สะระแหน่ + เลมอน บำรุงสุขภาพไต ช่วยกำจัดสารพิษ
          - น้ำกะหล่ำปลีม่วง + องุ่นแดง + ส้ม ควบคุมอาการอยากกินของหวาน และรักษาระดับพลังงานให้คงที่

ที่มา : หนังสือ "สุขภาพดี ราศีจับ" โดย MK

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]
สาระความรู้ทั่วไปสำหรับเจ้าของน้องตูบ
- อาหารแสลง ที่ควรเลี่ยงเมื่อป่วย [6 มกราคม 2554 15:30 น.]
- พืชขาดธาตุอาหารอะไร ?..ใส่ใจสักนิด... [6 มกราคม 2554 15:30 น.]
- ปวดท้อง...ลางบอกโรคร้ายของคุณ [6 มกราคม 2554 15:30 น.]
- การรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำและลดความเสี่ยง จากโรคมะเร็ง [6 มกราคม 2554 15:30 น.]
- ซอสปรุงรส [6 มกราคม 2554 15:30 น.]
- รู้จักไหม?...“ต้นผึ้ง” มีหนึ่งเดียวที่ราชบุรี [6 มกราคม 2554 15:30 น.]
- เลือดจระเข้ [6 มกราคม 2554 15:30 น.]
- การทำน้ำด่าง (อัลคาไลน์) สำหรับดื่มอย่างง่าย [6 มกราคม 2554 15:30 น.]
- กิน ‘สมอ’ ดีเสมอ [6 มกราคม 2554 15:30 น.]
- ปัสสาวะหลวงพ่อ [6 มกราคม 2554 15:30 น.]
ดูทั้งหมด

  แสดงความคิดเห็น

ตัวหนา ตัวเอียง ตัวขีดเส้นใต้ ตัวขีดกลาง ชิดซ้าย กึ่งกลาง ชิดขวา รูปภาพ ลิ้งก์ ขนาดต้วอักษร สีต้วอักษร

ชื่อ: *
E-mail : *
ไม่ต้องการแสดง Email
รหัสตรวจสอบ : Security Image
* กรุณากรอกรหัสที่อยู่ในรูป

Copyright@2010 by www.nongtoob.com All right reserved.
Engine by MAKEWEBEASY