สถิติผู้เข้าชม
 ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ 12
 ผู้เข้าชมในวันนี้ 1,065
 ผู้เข้าชมทั้งหมด 5,176,390
กรุณาฝาก Email ของท่าน
  เพื่อรับข่าวสาร ที่น่าสนใจ
29 มีนาคม 2567
อา จ. อ. พ. พฤ ศ. ส.
     
10  11  12  13  14  15  16 
17  18  19  20  21  22  23 
24  25  26  27  28  29  30 
31             
 
อยู่อย่างไรให้ใจสบาย
[29 ธันวาคม 2553 09:52 น.]จำนวนผู้เข้าชม 5564 คน
    
     ใจสบายมีความหมายต่อชีวิตมาก เมื่อใดใจไม่สบายแม้ร่างกายจะสมบูรณ์ ชีวิตก็ไร้ความหมาย เมื่อใดสุขสบายใจแล้วแม้ร่างกายจะพิการบ้างก็หาความสุขได้ไม่ยาก ความสุขของมนุษย์อยู่ที่ใจสบาย มิใช่มีทรัพย์มากกว่า มีเกียรติสูงกว่า เพราะส่วนใหญ่การมีทรัพย์มาก มีเกียรติมากมักก่อความไม่สบายใจเสมอ ปัญหาสำคัญจึงอยู่ที่ว่าเราจะอยู่อย่างไรให้ใจสบาย จะอยู่อย่างไรให้ใจเป็นสุข
     ในหลักพระพุทธศาสนาสอนว่า ละชั่ว ทำดี ทำให้ผ่องใส สองข้อแรกเป็นเหตุให้ใจสบายแน่นอน แต่บางครั้งการตั้งใจทำดีแท้ ๆ ก็ยังมีเหตุให้ใจไม่ผ่องใส ทำให้ไม่สบายใจอยู่ก็มีมาก ด้วยเหตุนี้พระพุทธองค์จึงตรัสเพิ่มอีกเป็นข้อที่สาม เน้นลงไปที่ความผ่องใสของใจ แปลว่าแม้จะไม่ทำชั่ว ตั้งใจทำดีเต็มที่แล้ว เท่านั้นยังไม่พอ เรายังต้องดูอีกว่าดีที่ทำนั้นได้ทำให้ใจเราผ่องใสหรือไม่ หรือว่าทำไปแล้วยังขุ่นมัวอยู่ เพราะดีที่ทำแล้วก็มาบ่นว่า ทำดีไม่ได้ดี ทำคุณคนไม่ขึ้น
     เมื่อใจไม่สบายมนุษย์ก็เริ่มเครียด และเครียดสะสมจากวันเป็นเดือน เป็นปี เป็นชีวิต จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้มนุษย์เรามีความเครียดเพิ่มมากขึ้นตลอด ไม่เคยลด ไม่เคยละ เพราะไม่ทราบอุบายที่จะทำใจให้สบาย
     จึงขอนำเสนอเรื่องง่าย ๆ สำหรับท่านผู้อ่านของข้าพเจ้าให้ลองพิจารณา นำไปปฏิบัติดู ดังนี้
               1.  การพูดถึงปัญหาเพียงครั้งเดียวก็เกินพอ ส่วนวิธีแก้แก้ปัญหา ต้องพูดแล้วพูดอีก คิดแล้วคิดอีก
                    ที่ข้าพเจ้าพูดเช่นนี้ ก็เพื่อจะบอกว่า มนุษย์เราส่วนมากที่ใจไม่สบาย ก็เพราะชอบพูดแต่ปัญหา พูดแล้วพูดอีก เจ้าหน้ากันอีก ก็พูดเรื่องเดิม พูดสิบครั้ง ก็โกรธสิบครั้ง ถูกไฟเผาไหม้ไปสิบครั้ง เรื่องควรจะจบกลับไม่ยอมจบ ไฟที่กำลังจะมอด ก็ถูกเติมเชื้อให้ลุกโชนขึ้นอีก แม้นำความไปพูดกับคนอื่น ก็ทำให้เกิดอารมณ์โกรธเกลียดเคียดแค้น ไม่สิ้นสุด และสุดท้ายก็กลายเป็น " โอษฐภัย " ไปโดยไม่รู้ตัว อยากให้ใจสบาย ให้พูดถึงปัญหาเพียงครั้งเดียว และแสวงหาวิธีแก้ปัญหาให้มาก
               2.  คิดบวกต่อคนอื่นให้มากเข้าไว้ 
                    การคิดบวกเป็นอุบายสำคัญในการดำรงชีวิต คนคิดบวกมักมีกำไรในชีวิต ส่วนคนคิดลบพูดลบชีวิตมักขาดทุน การคิดบวกต้องฝึกฝน เพราะมนุษย์ส่วนมากมักจินตนาการไปในทางลบ เมื่อเราคิดลบต่อเขา เขาก็คิดลบต่อเรา คิดดูเถิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น
                    เรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันที เรื่องไม่เป็นเรื่องก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตลุกลามไม่มีวันจบสิ้น ไม่เคยมีใครที่จะเอาชนะคนโกรธด้วยการโกรธตอบ พระพุทธองค์ตรัสสอนว่า พึงชนะคนไม่ดีด้วยความดี พึงชนะคนตระหนี่ด้วยการให้ พึงชนะคนโกรธด้วยการไม่โกรธตอบ ถามว่าทำยากไหม ตอบว่าทำยาก หากไม่เคยทำสิ่งเหล่านี้อยู่ที่การฝึกฝน กระทั่งเกิดความคล่องตัวในวิธีคิด
                    มนุษย์จะสุขหรือทุกข์อยู่ที่วิธีคิด ใจจะสบายหรือไม่สบาย ก็อยู่ที่วิธีคิด คิดบวกสบายใจ คิดลบก็นอนกอดทุกข์ขาดทุนไป
               3.  ไม่ต้องกลัวว่าใครจะดีกว่าเรา
                    เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งของมนุษย์คือ เห็นใครได้ดีกว่าแล้วเป็นทุกข์ ถ้าจะบอกว่าเป็นธรรมชาติของมนุษย์ก็ดูจะประเมินคุณค่าต่ำเกินไป ข้าพเจ้าอยากพูดว่า จริง ๆ แล้ว มิใช่เป็นธรรมชาติ หากแต่เป็นความเคยชินที่มนุษย์สร้างขึ้นมาอย่างต่อเนื่องแล้วไม่มีใครแก้ไข แล้วก็บอกว่าเป็นธรรมเนียมเป็นประเพณี เช่น กรณีที่ทอดกฐินผ้าป่า ล้มวัวล้มควาย
                    ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยเตือนชาวบ้านไปว่า อย่าทำบาปแลกบุญ อย่าทำบุญแล้วได้บาปด้วยการปลิดชีวิตสัตว์ เพราะถ้าไม่มีงานบุญสัตว์ก็ไม่ตาย พวกเขากล่าวว่า การล้มวัวเป็นงานกฐินผ้าป่าถือเป็นประเพณี ข้าพเจ้าย้อนถามว่า ประเพณีอะไรกันแน่ เขาตอบว่า ก็ทำงานอย่างนี้มาตลอด ข้อนี้ย่อมแสดงให้เห็นว่า มนุษย์เราเห็นแก่ตัวมากใช้กิเลสสร้างประเพณีบาปให้แก่ตน แล้วก็อ้างว่าเป็นประเพณี
                    ข้าพเจ้าเห็นว่า การพยายามฝึกคิดว่าขอให้คนอื่นดีกว่าเรา ชื่นชมเขาเมื่อเขาดี เพียงแค่ชื่นชมเราก็เป็นสุข เขาก็สบายใจ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราอิจฉาเขาใจเราก็ไม่สบาย ใจเขาเองก็เกิดการต่อต้านสุดท้ายก็ไม่สบายใจทั้งสองฝ่าย เมื่อเราได้ดีบ้าง ก็ถูกต่อต้านกลับ ด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์จึงตรัสสอนเรื่อง " มุทิตาจิต " คือเมื่อเห็นเขาได้ดี ก็ขอให้พลอยยินดีกับเขาด้วย เราต้องฝึกหัดยกย่องชื่นชมโดยไม่ต้องกลัวว่า ใครจะได้ดีกว่าเราแล้วใจเราก็จะสบาย
               4.  พึ่งตนให้มาก ไม่คิดหวังพึ่งคนอื่นตลอดเวลา
                    เรื่องการพึ่งตนเอง เป็นเรื่องสำคัญมาก มนุษย์เราส่วนใหญ่ชอบพึ่งคนอื่น บางครั้งเราก็คิดว่า เขาน่าจะให้เราพึ่งอาศัยได้ แต่สุดท้ายก็เปล่าประโยชน์ คือ เสียใจกลับมา เราน่าจะคิดใหม่ว่า ทำอย่างไร เราจะพึ่งตนได้ และเป็นที่พึ่งของคนอื่นด้วย การคิดพึ่งตนและให้คนอื่นมาพึ่งเราได้ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดทุกข์ ไม่ให้เกิดความผิดหวัง ให้เราคิดว่า แม้ในโลกนี้จะมีเพียงเราคนเดียว เราก็จะกำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัย
                    ผู้ฝากความหวังไว้กับคนอื่น จะผิดหวังเสมอ บางคน เราคิดว่าเขาสมหวังแล้ว เขามีมากแล้ว เราควรจะไปขอพึ่งพาอาศัยเขา แล้วก็ฝากความหวังไว้กับเขา แต่เอาเข้าจริง ปรากฎว่าผิดหวังหนักกว่าเดิม การฝากความหวังไว้กับคนที่งไมสมหวัง เราจะผิดหวังยิ่งกว่าเขาหลายเท่า คนที่เราคิดว่าเขารวย อาจจะจนกว่าเราก็ได้ คนที่เราคิดว่าเขาสมหวัง อาจจะผิดหวังยิ่งกว่าก็ได้
                    การฝึกใจให้รู้จักคิดพึ่งตน และกวักมือเรียกคนอื่นให้มาพึ่งเราจึงถือว่าเป็นการสร้างฐานความคิดที่สำคัญ ในการป้องกันใจไม่ให้ตก " หลุมพลางของทุกข์ "

ที่มา  :   รักอย่างไรให้ใจสบาย โดย ปิยโสภณ

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]
สาระความรู้ทั่วไปสำหรับเจ้าของน้องตูบ
- อาหารแสลง ที่ควรเลี่ยงเมื่อป่วย [29 ธันวาคม 2553 09:52 น.]
- พืชขาดธาตุอาหารอะไร ?..ใส่ใจสักนิด... [29 ธันวาคม 2553 09:52 น.]
- ปวดท้อง...ลางบอกโรคร้ายของคุณ [29 ธันวาคม 2553 09:52 น.]
- การรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำและลดความเสี่ยง จากโรคมะเร็ง [29 ธันวาคม 2553 09:52 น.]
- ซอสปรุงรส [29 ธันวาคม 2553 09:52 น.]
- รู้จักไหม?...“ต้นผึ้ง” มีหนึ่งเดียวที่ราชบุรี [29 ธันวาคม 2553 09:52 น.]
- เลือดจระเข้ [29 ธันวาคม 2553 09:52 น.]
- การทำน้ำด่าง (อัลคาไลน์) สำหรับดื่มอย่างง่าย [29 ธันวาคม 2553 09:52 น.]
- กิน ‘สมอ’ ดีเสมอ [29 ธันวาคม 2553 09:52 น.]
- ปัสสาวะหลวงพ่อ [29 ธันวาคม 2553 09:52 น.]
ดูทั้งหมด

ความคิดเห็นที่ 1
I loved that this celine outlet came to me from across the oceans,goyard outlet that she had a history.Giuseppe Zanotti Who was the lady in Japan who carried her? Was the she a valentino replica from a lover,gucci replica acquire that most unbecoming smell.At valentino outlet online , handbags are king.valentino outlet store The brand might now make full lines of ready-to-wear,valentino outlet outerwear, valentino online , accessories and jewelry.

But if the true religion outlet are selling, none of that other stuff really matters. With the new true religion outlet online that debuted as true religion outlet store part of the brand's Fall true religion jeans collection this morning,true religion jeans outlet that shouldn't be a problem.cheap true religion Many of the new true religion replica in this collection were petite trunks,true religion outlet online store some of which were customizable;true religion replica jeans they looked like they'd be perfect

Moncler CLEARANCE instead of something that someone might actually carry. Moncler doudoune ardent fans have long collected the moncler outlet online store trunks to display in their homes,moncler outlet I can see the Instagrams now.The functional moncler factory outlet were also a treat.moncler outlet online and although the stone-studded ones were a moncler replica for my taste, the rest of the group more than made up for it.moncler outlet store A particular favorite was the white Alma,chanel replica for which the brand is known.www.truereligionoutlets.net/
ชื่อ : gucci   E-mail : WQM@163.COM    วันที่ : 2 ธันวาคม 2558 09:30 น.
IP : 103.233.80.XXX

  แสดงความคิดเห็น

ตัวหนา ตัวเอียง ตัวขีดเส้นใต้ ตัวขีดกลาง ชิดซ้าย กึ่งกลาง ชิดขวา รูปภาพ ลิ้งก์ ขนาดต้วอักษร สีต้วอักษร

ชื่อ: *
E-mail : *
ไม่ต้องการแสดง Email
รหัสตรวจสอบ : Security Image
* กรุณากรอกรหัสที่อยู่ในรูป

Copyright@2010 by www.nongtoob.com All right reserved.
Engine by MAKEWEBEASY