สถิติผู้เข้าชม
 ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ 6
 ผู้เข้าชมในวันนี้ 862
 ผู้เข้าชมทั้งหมด 5,481,025
กรุณาฝาก Email ของท่าน
  เพื่อรับข่าวสาร ที่น่าสนใจ
30 ธันวาคม 2567
อา จ. อ. พ. พฤ ศ. ส.
10  11  12  13  14 
15  16  17  18  19  20  21 
22  23  24  25  26  27  28 
29  30  31         
             
 
อาหารที่ทำให้กลิ่นตัวเหม็นฉึ่ง!
[4 เมษายน 2554 15:17 น.]จำนวนผู้เข้าชม 5566 คน

    
     หากคุณเป็นคนที่กินไม่เลือก และมีกลิ่นตัวก็อาจเป็นไปได้ว่าอาหารที่คุณกินเป็นประจำเป็นต้นเหตุทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่ทำให้คนใกล้ตัวต้องร้องยี้! เครืองปรุงและส่วนผสมในอาหารบางอย่างอาจทำให้คุณมีกลิ่นตัวได้มากกว่าที่คุณคิด ยกตัวอย่างเช่นอาหารอิตาเลียน ที่ดูดีมีชาติตระกูล และอาจเป็นอาหารที่หลาย ๆ คนชอบไปทาน ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า หรือสปาเก็ตตี้ที่คุณกินเป็นประจำ สิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงก็คือเครื่องเทศที่มาพร้อมกับอาหาร เช่นกระเทียมกลิ่นแรงที่คุณกินเข้าไป ทำให้การอาบน้ำฟอกสบู่อาจไม่ทำให้กลิ่นของมันหายไปจากตัวคุณได้ง่าย ๆ

     คุณคงเคยสังเกตุว่าเวลาที่กินอาหารบางอย่าง กลิ่นของมันจะติดตัวคุณไปนานหลายชั่วโมง หรืออาจเป็นวันเลยทีเดียว และอาหารบางอย่างก็สามารถทำให้คุณมีเหงื่อออกมาก ๆ ได้เช่นกันยครั้งต่อไปเวลาที่คุณไปร้านพิซซ่า ลองสั่ง hot wing มาทานดูแล้วคอยสังเกตุว่าเวลาที่กินเจ้า hot wing แสนอร่อยคุณจะมีเหงื่อออกหรือไม่ ถ้าใช่นั่นก็เป็นผลของ capsaicin ซึ่งเป็นสารประกอบหนึ่งที่อยู่ในพริกไทยที่นำมาใช้ทำไก่ hot wing ซึ่งยcapsaicin จะไปกระตุ้นต่อมรับรสที่ลิ้นของคุณ กระบวนการนี้จะไปหลอกระบบประสาทของคุณให้ คิดว่า กำลังร้อนอยู่ทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมา ต่อม hypothalamus ที่สมองของคุณจะสั่งการทำงานของต่อมเหงื่อให้ขับเหงื่อออกมาเนื่องจากมันถูก capsaicin หลอกเอา

     นอกจากตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้น อาหารที่เสริพขณะที่ยังร้อนก็ทำให้คุณมีเหงื่อออกได้ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟร้อน, ชาร้อน หรือแม้แต่ซุปร้อน ๆ ก็ทำให้เหงื่อออกเช่นกัน แม้ว่าอุณหภูมิของร่างกายคุณจะไม่ร้อน หรือพูดง่าย ๆ คืออุณหภูมิของร่างกายไม่ได้สูง แต่เมื่อทานอาหาร หรือเครื่องดื่มร้อนๆ เข้าไปก็จะทำให้มีเหงื่อออกมาได้ยอาหารที่มีสารประกอบระเหยง่าย มีฤิทธิในการกระตุ้น metabolism ของร่างกาย ทำให้ร่างกายเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ สารประกอบพวกนี้มักจะไปอยู่ในเครื่องเทศกลิ่นแรง ๆ ทั้งหลาย สารประกอบในอาหารเหล่านี้จะเข้าไปในกระแสเลือด และขับออกมาทางปัสสาวะ ลมหายใจ รวมทั้งเหงื่อด้วยเช่นกัน ทำให้ตัวคุณมีกลิ่นเหม็น ไม่พึงประสงค์ต่อคนข้าง ๆ คำถามที่น่าสนใจคือทำไมคนบางคนกินเครื่องเทศที่มีสารประกอบระเหยง่ายเหล่านี้เข้าไปแล้วจึงไม่มีกลิ่นตัว หรือมีกลิ่นตัวน้อยกว่าคนบางคน คำตอบสำหรับคำถามนี้จะต้องไปดูองค์ประกอบต่าง ๆ ของอาหารที่คน ๆ หนึ่งกินไปทั้งหมด และอาจรวมไปถึงยีนส์ที่แตกต่างกันของแต่ละคนด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากคุณเป็นคนมีกลิ่นตัวง่าย คุณก็ควรจะหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเครื่องเทศมาก ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีกลิ่นเหงื่อออกมา แต่อย่างว่าละครับ เรามักจะไม่รู้ตัวของเราเองว่าตัวเราเหม็นหรือไม่ ดังนั้นการสอบถามคนใกล้ตัวก็อาจเป็นทางหนึ่งที่ช่วยคุณสังเกตุกลิ่นไม่พึงประสงค์ก่อนออกจากบ้านได้

     ถ้าจะถามว่าอาหารประเภทใดเลวร้ายที่สุดที่ทำให้คุณมีกลิ่นตัว กลิ่นปาก เจ้าตัวร้ายที่คนส่วนใหญ่กล่าวถึงคงไม่พ้นกระเทียม สาเหตุก็เพราะกระเทียมมีกลิ่นรุนแรง และคนทั่วไปสังเกตุได้ง่ายว่ามันมีกลิ่น มันจึงกลายเป็นผู้ร้ายของสังคมที่ถูกกล่าวโทษว่าเป็นตัวทำให้เกิดกลิ่นตัว และกลิ่นปากไปโดยปริยาย

     ในกรณีของกระเทียม สารเคมีที่ส่งกลิ่นออกมาจากลมหายใจ และเหงื่อของคุณก็คือซัลเฟอร์ ถ้าคุณเคยสูดดมกลิ่นของซัลเฟอร์ตรง ๆ จะพบว่ากลิ่นมันเหมือนกับไข่เน่าไม่มีผิด เจ้าซัลเฟอร์นี้เองที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวรุนแรง ในความเป็นจริงไม่ได้มีแต่กระเทียมอย่างเดียวที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ นอกจากกระเทียมแล้วหัวหอมก็ทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ไม่แพ้กัน ไหนจะอาหารที่เป็นแกงเผ็ด ๆ ที่มีเครื่องเทศต่าง ๆ ก็ทำให้เกิดกลิ่นดีแท้ อาหารเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชาวอินเดียมีกลิ่นตัวเป็นเอกลักษณ์ คุณคงจะเคยผมและสัมผัสกลิ่นที่ว่าจากชาวอินเดียกันมาบ้าง ซึ่งเป็นเพราะอาหารของพวกเขามีเครืองเทศจำนวนมาก แม้แต่อาหารที่ไม่มีกลิ่นแรง ก็ทำให้กลิ่นตัวคุณเปลี่ยนไปได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นคนที่ชอบกินเนื้อมาก ๆ จะมีกลิ่นตัวที่แรงกว่าคนที่ไม่กินเนื้อ หรือกินเนื้อน้อยกว่า ดังนั้นหากคุณต้องการที่จะมีกลิ่นตัวหอมกรุ่นชื่นใจ สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือจะต้องเลือกรับประทานอาหารที่ปราศจากเครื่องเทศ หรือมีเครื่องเทศเป็นส่วนประกอบไม่มากนัก พยายามหลีกเลี่ยงกระเทียม และหัวหอม รวมทั้งลดการกินเนื้อให้น้อยลง โดยธรรมชาติร่างกายของเราแล้ว จะสามารถทำงานได้ดีกว่าถ้าเรากินผักเข้าไปเป็นจำนวนมาก ๆ ในแต่ละวัน เพราะเนื้อจะย่อยได้ยาก แต่ถ้าหากคุณไม่สนใจเรื่องกลิ่นตัวเท่าไหร่นัก เราก็อยากจะบอกว่ากระเทียม กับหัวหอมมีประโยชน์ต่อร่างกายของคุณอย่างมาก ตัวอย่างเช่นกระเทียมสามารถลดระดับคอเลสเตอรอล และไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ กระเทียมสามารถช่วยให้คุณได้รับประโยชน์อย่างมากถ้าคุณเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด หากจะศึกษาให้ดี ๆ แล้วจะพบว่ามันมีประโยชน์มากมาย และถูกนำมาใช้ทางการแพทย์ในหลาย ๆ อย่าง ส่วนหัวหอมก็สามารถช่วยในการเจริญอาหาร, แก้หวัด, ลดอาการไอ, แน่นหน้าอก, การติดเชื้อของแบคทีเรีย, ฯลฯ

ที่มา : Forword Mail


[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]
สาระความรู้ทั่วไปสำหรับเจ้าของน้องตูบ
- อาหารแสลง ที่ควรเลี่ยงเมื่อป่วย [4 เมษายน 2554 15:17 น.]
- พืชขาดธาตุอาหารอะไร ?..ใส่ใจสักนิด... [4 เมษายน 2554 15:17 น.]
- ปวดท้อง...ลางบอกโรคร้ายของคุณ [4 เมษายน 2554 15:17 น.]
- การรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำและลดความเสี่ยง จากโรคมะเร็ง [4 เมษายน 2554 15:17 น.]
- ซอสปรุงรส [4 เมษายน 2554 15:17 น.]
- รู้จักไหม?...“ต้นผึ้ง” มีหนึ่งเดียวที่ราชบุรี [4 เมษายน 2554 15:17 น.]
- เลือดจระเข้ [4 เมษายน 2554 15:17 น.]
- การทำน้ำด่าง (อัลคาไลน์) สำหรับดื่มอย่างง่าย [4 เมษายน 2554 15:17 น.]
- กิน ‘สมอ’ ดีเสมอ [4 เมษายน 2554 15:17 น.]
- ปัสสาวะหลวงพ่อ [4 เมษายน 2554 15:17 น.]
ดูทั้งหมด

Copyright@2010 by www.nongtoob.com All right reserved.
Engine by MAKEWEBEASY