ล่องอ่าวบางตะบูน เยือนหมู่บ้านประมง: อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี
หลัง..หลัง มานี้ ได้ยินชื่อ ?บ้านบางตะบูน? หนาหูขึ้นแล้วล่ะ..ไม่ว่าจะ
- ไปกินกุ้งที่บ้านลุงยุทธ ที่บางตะบูน
- กินอาหารทะเล อาทิ แกงคั่วปูทะเลไข่ใบชะคราม ที่ร้านริมทะเล ริมอ่าวบางตะบูน
-หรือเมื่อต้นปีนี้เองก้อมีงาน "เปิดโลกทะเลโคลน ครั้งที่ 1 ประจำปี 2553" วันที่ 29-31 มกราคม 2553 ณ ริมปากอ่าวบางตะบูน เชิงสะพานแม่น้ำบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี
บางตะบูน เป็นชื่อของตำบลหนึ่งซึ่งมีหมู่บ้านเรียงรายไปตามแม่น้ำ ตั้งอยู่บริเวณที่ราบชายฝั่งทะเลของอำเภอบ้านแหลม พื้นที่นั้นเกิดจากการทับถมของตะกอนปากแม่น้ำเพชรบุรี และแม่น้ำแม่กลอง โดยประชากรส่วนใหญ่นั้นจะมีอาชีพทางการเกษตร เช่น เลี้ยงกุ้ง เลี้ยงหอย จับปลา และเผาถ่าน นอกจากนี้ก็ยังมีการทำนาเกลือสมุทรอีกด้วย
ซึ่งตรงบริเวณปากอ่าวบางตะบูน จะมีการเลี้ยงหอยแครงและหอยแมลงภู่กันมาก นับว่าเป็นแหล่งที่เลี้ยงหอยแครงที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ แต่มาปัจจุบันเกษตรกรผู้เลี้ยงหอยต่างได้รับผลกระทบกันอย่างหนักเลยทีเดียว โดยคุณลุงพงษ์ โชคสมพงษ์ เกษตรกรผู้เลี้ยงหอย ได้เปิดเผยว่า ปีนี้หอยแมลงภู่ได้ตายมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา
ซึ่งสาเหตุนั้นเชื่อว่าการปล่อยน้ำเสียจากโรงงานลงมา โดยลักษณะของหอยที่นำขึ้นมานั้น มีแต่เปลือกหอยตายทั้งสิ้น ส่วนหอยที่มีชีวิตอยู่นั้นจะเรียกว่า หอยชะอมอ้าปาก โดยแม่ค้าที่มารับซื้อก็ไม่สามารถขายได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้ได้รับความเดือดร้อนกันอย่างหนัก และถึงแม้ว่าชาวเกษตรจะได้รับผลกระทบในเรื่องของการเลี้ยงหอย
แต่เสน่ห์ของวิถีชีวิตของคนบางตะบูนในอีกอาชีพหนึ่งที่เรียกได้ว่า สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว นั่นก็คือ การจัดโครงการโฮมสเตร โดยสามารถดึงนักท่องเที่ยวที่ชอบชมทัศนียภาพที่งดงามของสองฝั่งแม่น้ำ อีกทั้งยังสามารถศึกษาขนบธรรมเนียมของคนในท้องถิ่นได้อีกด้วย โดย นางสุณี หงส์ทอง
สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางตะบูน กล่าวว่า ขณะนี้ กลุ่มเครือญาติได้มีการจัดทำเป็นหมู่บ้านโฮมสเตร กันบ้างแล้ว ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะชมกันมากขึ้น หรือนักท่องเที่ยวกลุ่มใดประสงค์ที่จะค้างคืนเพื่อชมทิวทัศน์ในการล่องเรือ หรือ ตกปลา ที่หมู่บ้านแห่งนี้บริการทุกรูปแบบ นับว่าเป็นการสร้างรายได้หรือเป็นอาชีพเสริมได้ไม่แพ้การเลี้ยงหอยเลยทีเดียว
การเดินทาง
ปากอ่าวบางตะบูน ตั้งอยู่บริเวณที่ราบชายฝั่งทะเลของอำเภอบ้านแหลม
...ที่จริงแล้วเราก้อได้ไปแวะเล่นเที่ยวชมบางตะบูนมาบ้างก่อนมีงานเล็กน้อย เป็นอีกเส้นทางนึงที่น่าขับรถเที่ยวมากๆ เส้นทางนี้ไปออก จ.เพชรบุรี้ได้เลย เราจึงลองขับรถเที่ยวแบบสบายๆ ใช้ชีวิตไม่รีบเร่ง (Slow Life) บนเส้นทางสายนาเกลือนี้กันดูบ้าง.. ด้วยระยะทางไม่เกิน 84 กิโลเมตรจาก กรุงเทพฯ-พระราม 2-สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เลี้ยวซ้ายตรงปั๊มปตท. ช่วง กม. 70-72 ใช้เส้นทางคลองโคน-บางตะบูน-บ้านแหลม -หาดเจ้าสำราญ
หากพูดถึงจังหวัดเพชรบุรี ความสวยงามของ “ทะเล” ชะอำ คงไม่แพ้ หัวหิน หรือพัทยา..แต่ หากได้พูดถึง “ความเค็ม”ในที่นี้ไม่ใช่ความเค็มของทะเลนะคะ..แต่เป็นความเค็มของเกลือต่างหากค่ะ นั่นก็คือ“นาเกลือ”
จะมีสักคนที่รู้ว่า “นาเกลือ” ที่จังหวัดเพชรบุรี มีพื้นที่ผลิตนาเกลือมากที่สุดแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะในอำเภอบ้านแหลม ,,นาเกลือ กองเกลือขาวโพลน เรียงราย ได้บรรยากาศริมอ่าวไทย ทำให้นักท่องเที่ยวต้องจอดรถแวะถ่ายรูป วิถีชาวนาเกลือ ทุกราย
ทริปนี้หมูหินได้มีโอกาส ร่วมทริปสำรวจเส้นทาง ท่องเที่ยวใหม่ตามคอนเซ็ปต์ มนต์เสน่ห์ ทะเลวัง กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี สำนักงานสมุทรสงคราม และสำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โดยเส้นทางนี้ เป็นเส้นทาง นก เกลือ โคล เลน เล & วาฬบรูด้า ที่การท่องเที่ยวสำนักงานเพชรบุรี ได้สำรวจมาเพื่อเป็นข้อมูลให้นักท่องเที่ยวอย่างเรา ได้ขับรถเที่ยวแบบเพลิน ๆ ตั้งแต่ อำเภอบ้านแหลม จนถึง อำเภอชะอำ เลยค่ะ
อำเภอบ้านแหลม เป็นอำเภอหนึ่งที่มีประวัติความเป็นมาที่น่าภาคภูมิใจ โดยในอดีตเคยเป็นเส้นทางที่นักเดินทางสมัยก่อนเมื่อจะเดินทางมายังเมืองเพชรบุรีหรือไปทางใต้จะต้องเดินทางผ่านอำเภอบ้านแหลม มีโบราณสถานโบราณวัตถุ ตลอดจนวัดวาอารามอันเป็นศูนย์รวมจิตใจและวัฒนธรรม มีสภาพธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลที่สำคัญแต่วันนี้ ททท. พาหมูหินดอทคอม ไปล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวประมง ที่ ปากอ่าวบางตะบูน ในอำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ,,
อ่าวบางตะบูน มีดีอย่างไร ??
ปากอ่าวบางตะบูน เป็นจุดที่แม่น้ำบางตะบูนหรือคลองบางตะบูน ซึ่งแยกสาขาจากแม่น้ำเพชรบุรีบริเวณวัดคุ้งตำหนักไหลออกสู่ทะเล ภูมิประเทศทั่วไปเป็นหาดโคลน ปกคลุมด้วยป่าชายเลนสมบูรณ์ผืนใหญ่ เป็นแหล่งทำประมงพื้นบ้านของชาวบ้านบางตะบูน นักท่องเที่ยวที่ได้มาล่องเรือชมความสวยงามที่อ่าวบางตะบูน จะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติ บนอ่าวบางตะบูนและสัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงชายฝั่ง ทั้งการทำคอกหอยแครง การเก็บหอย โดยบริเวณ ใกล้ๆ เราจะเห็น กระท่อมเล็กๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อนอนเฝ้าหอย เรียกว่า “กระเตง”
และเมื่อล่องเรือออกมาเรื่อยๆ ก็จะพบกับเรือประมงของชาวบ้านออกเก็บหอย ทั้งสองฝั่งทุกบ้าน จะมีเรือประมงลำเล็กๆ จอดอยู่ ส่วนบนชานบ้านเป็นที่ตากแห อวน และแปรรูปผลผลิตจากท้องทะเล เช่น ปลากุเลาเค็ม กุ้งแห้ง ปลาเค็ม ไข่เค็ม เป็นวิถีชีวิตที่ดำรงอยู่กับธรรมชาติอย่างสงบสุข และชาวบ้านส่วนใหญ่ จะทำประมงพื้นบ้าน เลี้ยงหอยแครง หอยแมลงภู่ บางส่วนก็เผาถ่านไม้โกงกาง
ป่าชายเลนที่มองเห็นรอบๆ ปากอ่าวบางตะบูน เป็นป่าชายเลนสมบูรณ์ผืนใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเพชรบุรีที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ เพราะชาวบ้านร่วมกันดูแลรักษาและก่อตั้ง " กลุ่มคนรักษ์บางตะบูน " ร่วมกันตั้งกฎในการดูแลรักษาป่า สภาพป่าจึงมีพืชพรรณไม้ชายเลนขึ้นหนาแน่น ทั้งโกงกาง แสม ลำพู ลำแพน ตะบูน ตะบัน ฯลฯ เป็นแหล่งเพาะพันุธ์และอาศัยของสัตว์ทะเลนานาชนิดโดยเฉพาะหอยแครง และหากใครสนใจ ศึกษาเกี่ยวกับระบบนิเวศน์ป่าชายเลน ที่โรงเรียนบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม ก็มีศูนย์อนุรักษ์และศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลน สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจ .. โดยจะมีไกด์ให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของป่าชายเลน และสัตว์น้อยใหญ่ ที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลน..
เห็นแบบนี้แล้ว น่าสนใจไม่น้อยนะคะ... เพื่อนๆ คนไหนได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองเพชรบุรี อย่าลืมแวะล่องเรือชมวิถีประมง อ่าวบางตะบูน ที่อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรีกันนะคะ ,, รับรองว่า “เพลินกว่าที่คิด” เพราะนี่เป็นเพียงน้ำจิ้ม กับในเส้นทาง นก เกลือ โคลน เลน เล & วาฬบรูด้า ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ,, เริ่มจาก อ่าวบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม จนถึง หาดชะอำเลยล่ะค่ะ รับรองว่า ขับรถไปเอง... เพลิน จนไม่อยากกลับเลยทีเดียวค่ะ สอบถามเส้นทาง นก เกลือ โคลน เลน เล &วาฬบรูด้า ได้ที่ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย,,
อ่าวบางตะบูน
ใช้เส้นทาง นก เกลือ โคลน เลน เล & วาฬบรูด้า ปากอ่าวบางตะบูน อยู่ถัดจากคลองโคน จากเมืองเพชรบุรี ใช้ถนนสายบ้านแหลมบางตะบูน เส้นทาง 3176 ปากอ่าวบางตะบูน อยู่เลยโรงเรียนบางตะบูนวิทยาไป 1 กิโลเมตร หากต้องการนั่งเรือล่องชมปากอ่าวบางตะบูน สามารถติดต่อเช่าเรือที่ท่าเรือหน้าวัดปากอ่าว หรือติดต่อคุณลุงเปลว พยัคพฤกษ์ โทร 08 1780 1100
ชายฝั่งทะเลบางตะบูน เพชรบุรีสมบูรณ์ พบ "ฝูงวาฬบรูด้า" คู่แม่-ลูกอีก หากินอยู่ห่างชายฝั่งประมาณ 8-10 ไมล์ ที่ระดับความลึกของน้ำ 10 เมตร... ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร รายงานว่า ได้พบปลาวาฬบรูด้าในท้องทะเลอ่าวไทยตอนบน เข้ามาหากินอาหารอยู่นอกชายฝั่งบางตะบูน จ.เพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. และพบเกือบทุกวันๆ ละประมาณ 2-4 ตัว ในจำนวนนี้เป็นปลาวาฬคู่แม่ลูก 1 คู่ และจากการสำรวจและเฝ้าติดตามฝูงปลาวาฬบรูด้าดังกล่าว บริเวณนอกชายฝั่งทะเลบางตะบูน จ.เพชรบุรี ผลการสำรวจในวันแรกพบปลาวาฬบรูด้าแล้วจำนวน 3 ตัว ในจำนวนนี้เป็นคู่แม่ลูก 1 คู่ ซึ่งลูกยังอ่อนวัยมีขนาดเล็กมาก มีความยาวลำตัวเพียง 4-5 เมตร ลูกปลาวาฬว่ายน้ำข้างลำตัวแม่ตลอดเวลา และพบว่าปลาวาฬบรูด้าหากินอยู่ห่างชายฝั่งประมาณ 8-10 ไมล์ ที่ระดับความลึกของน้ำ 10 เมตร
ข้อมูลเพิ่มเติม: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี โทรศัพท์ 032 47 1005-6
สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบุรี สนามกีฬาจังหวัดเพชรบุรี
ถ.คีรีรัฐยา ต.ธงชัย อ.เมือง จ. เพชรบุรี 76000
เบอร์โทรศัพท์ (กลาง) 032-780336,032-780350
เบอร์โทรสาร (กลาง) 032-780350 Email:petchaburi@mots.go.th
ที่มาของภาพและบทความ:
http://www.moohin.com
http://www.paiduaykan.com
http://www.addsiam.com |