การทำหมันน้องตูบ เราจะเลือกวิธีอย่างไร?
ภาพจาก wallcoo.net
ต้องถามเจตนาของเจ้าของสัตว์เสียก่อน เพราะหมอจะไม่ทำสุ่มสี่สุ่มห้า ที่เห็นแก่เงินก็คงมีออกเยอะไป เพราะเป็นอาชีพที่เรียกเก็บเงินได้ เป็นค่าวิชา ตามคำอ้างของสังคมสมัยนี้การฉีดยาคุมกำเนิด เราจะฉีดเฉพาะในสัตว์เพศเมียที่เกณฑ์อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ยังไม่ได้รับการผสมพันธุ์ และที่สำคัญในระหว่างที่ติดสัดห้ามฉีดเด็ดขาด เพราะอาจทำให้มดลูกอักเสบขึ่นได้ ระยะห่างในการฉีดควรเว้น 4 - 6 เดือน ตามการพิจารณาของหมอ ว่าสมควรได้รับยาคุมกำเนิดช่วงใหน หากฉีดถี่ผลข้างเคียงที่เห็นเด่นชัดคือ สัตว์จะอ้วนขึ้น หมายถึงระยะการเป็นหมัน(ชั่วคราว)ของสัตว์จะห่างไปเรื่อยๆ คือ เริ่มต้นที่ 4 - 6 เดือน เพิ่มระยะความคุ้มเป็น 1 - 4 ปี
สำหรับการผ่าตัดทำหมัน หมายถึงเอาลูกอัฑฒะสองลูกจากถุงหุ้มที่อยู่หว่างขาหลังของสัตว์เพศผู้ออกไปทิ้ง หรือการนำเอารังไข่ และมดลูกของสัตว์เพศเมียออกจากช่องท้อง(ทำหมันถาวร)ทิ้งไปเหมือนกันทั้ง 2 กรณี เจ้าของสัตว์ต้องยินยอม และมีสิทธิที่จะเลือกหมอ(ทำหมันสัตว์) ไม่ใช่หมาเลือกหมอ หรือ หมอเลือกหมา ในกรณีที่สัตว์มีผู้แสดงว่าตนเองเป็นเจ้าของการฉีดไม่ใช่เรื่องยาก แค่นำหมาไปหาหมอตามกำหนด แต่การผ่าตัดทำหมันต้องมีการวางยาสลบ ซึ่งมีข้อปลีกย่อย หมาต้องอดอาหาร 1 มื้อ เพราะอาหารอาจไหลย้อนกลับจากกระเพาะไปอุดหลอดลมถึงตายได้(ชัก ชัก ชัก) และการผ่าช่องท้องในสัตว์เพศเมีย ต้องติดตามหมั่นทำความสะอาด ไม่ให้สกปรกและอาจติดเชื้อได้ หรือสัตว์อาจเลียฝีเย็บทำให้ฝีเย็บแตกได้ ถึงบอกให้เลือกหมอที่สามารถติดตามผลงานของตนเองได้ ไม่ใช่เจ้าของนำสัตว์ที่ผ่าตัดออกไปแล้ว หมอไม่รับไม่รู้ ไม่ชี้ไม่มีจรรยา ไม่รับผิดชอบ(อยากด่ามานานแล้ว พึ่งได้โอกาส)หมอที่ทุ่มเท เสียสละ รักษาฟรี ผ่าตัดฟรี ยังหาได้นะครับที่อำเภอบ้านนอก 555 โครงการหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ โครงการคลีนิคเกษตรเคลื่อนที่ โครงการวันรณรงค์ป้องกันและกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าโลก( 28 กันยายน ของทุกปี ) ในกรุงคงจะหายาก ราคาแพง จึงขอแนะนำที่ ฝ่ายสุขภาพสัตว์ กรมปศุสัตว์ พญาไทฯ และภาควิชาสัตวแพทย์ ม.จุฬา กับ ม.เกษตร
การทำหมันในสัตว์ที่อายุไม่มากนัก บางครั้งเรียก Early Spay/Neuter จะทำในลูกแมวที่มีอายุ 4-7 สัปดาห์เป็นต้นไป จนถึง 6-7 เดือน ในลูกสุนัขทำได้ตั้งแต่อายุ 6-7 สัปดาห์ จนถึง 9 เดือน โดยต้องทำก่อนสุนัขและแมวเป็นสัตว์ครั้งแรก แมวจะเป็นสัดและสามารถตั้งท้องได้ตั้งแต่อายุ 5 เดือน ส่วนสุนัขอาจจะประมาณ 8-9 เดือน
การทำหมันด้วยวิธีนี้ทำโดยการศัลยกรรมเอารังไข่และมดลูกในตัวเมียออก ในตัวผู้ก็จะตัดอัณฑะออกไป ประโยชน์ของการทำหมันด้วยวิธีนี้มีมากมาย แต่ต้องคำนึงถึงรายละเอียด 2 ข้อทีสำคัญต่อการศัลยกรรม เพื่อให้สัตว์ฝื้นจากการวางยาสลบและผ่านการศัลยกรรม/ไปด้วยดี
1. Hypoglycemia (ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ) โดยทั่วไปการทำหมันในสัตว์ที่โตเมที่จะต้องงดอาหาร 12 ชั่วโมง แต่ในกรณีนี้งดแค่ 4 ชั่วโมงก็พอและรีบให้อาหารสัตว์ทันทีที่สัตว์สามารถยืนได้
2. Hypothermia (อุณหภูมิร่างกายต่ำ) ลูกสัตว์ต้องอยู่ในผ้าห่มไฟฟ้าหรือมีผ้าเช็ดตัวที่อุ่นห่มไว้/ร องตัวตลอดการศัลยกรรมและหลังการผ่าตัด การทำหมันด้วยวิธีนี้ประหยัดทั้งเวลา ค่าใช้จ่าย ปลอดภัย และเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งข้อดีข้อเสียสำหรับการทำหมันและไม่ทำหมันมีดังต่อไปนี้
ข้อเสียของสัตว์ที่ไม่ทำหมันตัวผู้
1. ตัวผู้ที่ไม่ทำหมันทั้งในสุนัขและแมวจะชอบท่องเที่ยวไปไม่ว่ากล างวันหรือกลางคืน เพื่อออกหาคู่ การออกไปตะลอนๆเช่นนี้ทำให้เกิดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ หลงทาง หรือบาดเจ็บจากการต่อสู้เพื่อแย่งชิงตัวเมีย ซึ่งทำให้เจ้าของต้องเสียเงิน เสียเวลา และสุขภาพจิตมิใช่น้อย
2. มีการปัสสาวะบ่งบอก ประกาศอาณาเขตทั้งในและนอกบ้าน
3. การขึ้นขี่ตุ๊กตา เฟอร์นิเจอร์ หรือขาคนใดคนหนึ่งเป้ฯที่หน้าอับอายต่อหน้าเพื่อนฝูง หรือแขกที่มาเยี่ยม
4. อาจมีพฤติกรรมก้าวร้าว แต่ไม่ใช่ที่เกิดจากพฤติกรรมก้าวร้าวกัยการปกป้องจากสุนัข ซึ่งแสดงออกเหมือนกัน แต่ต่างสาเหตุ
5. มักเกิดโรคที่เกี่ยวกับต่อมลูกหมาก อัณฑะและเนื้อเยื่อที่เกี่ยวกับฮอร์โมนเพศผู้ โดยสุนัขที่ไม่ทำหมัน จะมีโรคที่พบบ่อยๆคือ มะเร็งเกี่ยวกับอัณฑะ และระบบสืบพันธุ์ (2 ใน 3 ของเนื้องอกในสัตว์แก่)
ตัวเมีย
1. ช่วงเวลาที่แมวตัวเมียกำลังเป็นสัดจะมีพฤติกรรมเชิญชวนร้องเสีย งดังเป็นเวลา 4-5 วัน ทั้งกลางวันและกลางคืน ทุกๆ 3 สัปดาห์ นอกจากนั้นจะมีอาการปัสสาวะบ่อยกะปริบ กะปรอย บางครั้งก็ตลอดทั้งชั่วโมงเพื่อกระตุ้นให้ตัวผู้ที่ไม่ทำหมัน ฉี่พ่นไปทั่วหรือรอบบ้านที่ตัวเมียอยู่
2. สุนัขตัวเมียมีเลือดหยดทั่วบ้านประมาณ 1-2 สัปดาห์
3. เสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์และเนื้องอกบริเวณเต ้านม โรคที่พบบ่อยคือ มดลูกเป็นหนอง ต้องรักษาโดยการผ่าตัด อยู่โรงพยาบาลให้น้ำเกลือและยาปฏิชีวนะเข้าเส้นเลือดซึ้งในกรณี สัตว์อายุมากจะเสี่ยงต่อการวางยาสลบ การศัลยกรรม อาจเกิดโรคแทรกซ้อน ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง ถ้าสัตว์หายป่วยดี เจ้าของก็ไม่เสียดายเงิน แต่ถ้าต้องรับซากกลับไปนี่สิ คิดดูว่าจะเศร้าแค่ไหนหล่ะ ส่วนความเสี่ยงอีกอย่างคือมะเร็งเต้านม ซึ่งพบว่าเป็นสาเหตุการตายในสุนัขและแมวตัวเมียสูงถึง 50 และ 90% ตามลำดับ
ข้อดี
ระยะสั้น
1. แมวและสุนัขเพศเมียหากทำหมันเมื่ออายุ 6-9 สัปดาห์จะใช้เวลาในการปฏิบัติงานน้อยกว่าเมื่อมีอายุ 6-7 เดือน เพราะไขมันใต้ผิวหนังน้อย เปิดแผลง่ายและเสียเลือดน้อยหาอวัยวะได้ง่ายกว่า ในเพศผู้ก็ไม่แตกต่างกัน
2. ประหยัดวัสดุในการตัดเย็บ เป็นการลดค่าใช้จ่าย
3. สัตว์อายุน้อย ฟื้นตัวจากยาสลบได้เร็ว ใช้เวลาทำงานน้อย ปลอดภัย
4. ไม่จำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาล
ระยะ ยาว
1. ลดโอกาสของการเกิดความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ รวมทั้งเนื้องอกเต้านมและมดลูกเป็นหนอง
ซึ่งการทำหมันสุนัขเพศเมียก่อนอายุ 6 เดือนหรือก่อนการเป็นสัดครั้งแรก พบ 1 ใน 7 เท่านั้นที่เกิดเนื้องอกเต้านม
2. สัตวีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ต้อง เสี่ยงต่อการเป็นสุนัขและแมวจรจัดข้างถนน ไม่กรงกักขัง หรือถูกกำจัดทิ้ง
3. ลดพฤติกรรมก้าวร้าว
ประโยชน์ต่อสังคม
1. ลดประชากรสุนัขและแมว ป้องกันการเกิดปัญหาแมวสุนัขจรจัด
2. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้เพื่อนโยบายจัดการเกี่ยวกับสุนัขและแ มวจรจัด ซึ่งตอนนี้เป็นปัญหาในเมืองใหญ่ๆของประเทศ โดยเฉพาะในกทม.
3. ในส่วนคนที่มีเมตตาต่อสัตว์ จะได้ไม่พบเห็นสัตว์ประสบอุบัติเหตุกลางถนนและต้องรับภาระมากมา ยตามมา
4. สุนัขตัวผู้ของเราก็จะได้ไม่ออกไปผสมพันธุ์กับสุนัขตัวเมียข้าง นอกบ้าน โดยเฉพาะสุนัขจรจัด ยิ่งถ้าสุนัขที่ไม่ใช้พันธุ์แท้นั้น การหาผู้รับเลี้ยงนั้นก็ยากกว่าปกติ และถึงแม้จะเป็นพันธุ์แม้ก็ตาม ถ้าคุณสามารถขายได้หรือแจกจ่ายได้หมด คุณสามารถมั่นใจได้อย่างไรว่าเจ้าของใหม่จะเลี้ยงไปได้ตลอดรอดฝ ั่งและจะไม่ทิ้งสุนัขของคุณ? ดังนั้น หากคุณไม่ได้ตั้งใจว่าจะเพาะสุนัขเป็นอาชีพ หรือไม่ได้เป็นผู้พัฒนาสายพันธุ์สุนัขและหล่ะก็ การทำหมันจะช่วยลดปัญหาสุนัขจรจัดได้มากที่เดียว หากจะเริ่มต้นแก้ไขปัญหานั้น ควรจะเริ่มที่ตัวเราด้วย ไม่ใช่รอให้รัฐบาลหรือผู้มีหน้าที่นี้ รับผิดชอบแต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะถ้าไม่อย่างงั้น ปัญหาสุนัขจรจัดคงไม่มีวันหมดไปจากสังคมเรา
จริงหรือไม่???
ความเชื่อ: สุนัขทำหมันแล้วมักจะขี้เกียจทำมให้เฝ้าบ้านไม่ได้
ความจริง: เป็นเหตุผลเดียวกับข้อแรก การที่สุนัขดุน้อยลง หนีออกจากบ้านน้อยลง อารมณ์เย็นขึ้น นิ่งขึ้น เลยทำให้เรารู้สึกว่าสุนัขขี้เกียจ ทั้งที่จริงเค้าเพียงเลิกในสิ่งที่เคยเป็นปัญหากับคุณไปเท่านั้ นเอง และสัญชาติการการเฝ้าบ้านกัยขโมยนั้นมันไม่ได้เกี่ยวกับออร์โมน ทางเพศดังนั้นมันจึงไม้กี่ยวกันกับการทำหมันรึไม่ทำหมันเลย
ความเชื่อ: การทำหมันเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ
ความจริง: ถ้าจะให้เรื่องนี้เปรียบเทียบกับคนเรา การที่คนเราทำหมันนั้นมันเป็นเรื่องผิดธรรมชาติหรือเปล่า? แล้วมันจะแปลกอะไรถ้าสุนัขจะทำหมัน ซึ่งถ้าย้อนกับไปสุนัขป่าเองก็ใช่ว่าจะได้ผสมพันธุ์ทุกตัว ถึงแม้ไม่ได้ทำหมันก็ตามเถอะ เพราะสุนัขที่เป็นจ่าฝูงซึ่งแข็งแรงสมบุรณืที่สุดเท่านั้นที่จะ ผสมพันธุ์ได้ ซึ่งมันก็เป็นการทำมห้สุนัขป่ามามารถอยุ่รอดและพัฒนาสายพันธุ์ไ ปเรื่อยๆโดยไม่ถดถอย ดังนั้นการทำหมันเป็นทางเลือกที่ดีถ้าคุณไม่ได้จริงจังเหมือนผู ้เพราะพันธุ์สุนัขมืออาชีพ ที่จะต้องเลือกเฟ้นสุนัขที่ดีที่สุดจริงๆ และศึกษาถึงข้อดีข้อเสียของสุนัขมามากเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ เพราะการที่เพาะพันธุ์สุนัขโดยไม่มีความรู้นั้นจะเป็นการทำให้ส ุนัขสายพันธุ์นั้นๆด้วยลงทุกๆวันเท่านั้นเอง
ความเชื่อ: สุนัขนั้นน่าสงสารและเป็นการทารุณหากเกิดมาไม่เคยได้ผสมพ ันธุ์เลย
ความจริง: หากทำหมันสุนัขตั้งแต่เล็ก สุนัขนั้นจะไม่รู้จักการผสมพันธุ์ด้วยซ้ำ และหากทำหมันสุนัขโตแล้ว ฮอร์โมนทางเพศก็จะลดลงและจะไม่อยากผสมพันธุ์ ดังนั้นไม่มีอะไรที่จะเป็นการทรมาณหรือทารุอะไรเลย
ความเชื่อ: การทำหมันสุนัขควรรอให้ผ่านการเป็นสัดครั้งนึงก่อน ไม่ควรทำตอนเด็กเกินไป
ความจริง: จริงๆแม้ไม่มีหลักฐานการวิจัยอะไรที่บอกความคิดนี้คือสิ่ งที่ถูกต้อง แต่เท่าทีได้ยินมาสัตว์แพทย์เมืงไทยหลายท่านจะบอกกับลูกค้าอย่า งงี้ ทั้งๆที่ความเชื่อนี้ไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นสากลและไม่ได้ ให้สุนัขมีความเป็นอยู่ที่ดีซึ่งเป็นสิ่งที่เราควรคำนึงถึงเป็น อันดับแรก
เหตุผลและคำอ้างอื่นๆ
- รักสุนัขที่เป็นพ่อแม่มาก เลยอยากจะได้ลูกของเขาเก็บไว้
ข้อคิด หากย้อมคิดดูสักนิดว่า ถ้าลูกสุนัขที่เกิดมานั้นไม่เหมือนพ่อแม่ของเค้า คุณจะทำอย่างไร และ ถึงแม้จะมีอ่างที่คุณต้องการก็เถอะ ลูกสุนัขตัวอื่นๆที่ที่เหลือหล่ะคุณจะทำอย่างไร? หากคุณรักสุนัขของคุณมากคุณย่อมจะคิดว่า เจ้าของใหม่นั้น จะดูแลลูกสุนัขเหล่านี้ได้ดีเท่าคุณหรือไม่ และคุณมั่นใจได้อย่างไรว่าคุณจะหาเจ้าของใหม่ที่ดีๆให้กับลูกสุ นัขได้ทุกตัว และคุณสามารถจะเลี้ยงลูกสุนัขที่เหลืออีกฝูงนั้นได้หรือเปล่า ถึงแม้คุณจะบอกว่า คุณจะเลี้ยงลุกสุนัขครอกนี้ทั้งหมด คุณลองถามตัวเองดูสิว่า คุรสามารถดูแลให้ความรักความเอาใจใส่ให้กับสุนัขเหล่านั้นอย่าง เพียงพอเต็มทีทุกตัวได้หรือเปล่า? ถ้าคุณอยากได้สุนัขที่เหมือนกับสุนัขตัวเก่าของคุณ โอกาสที่คุณจะไปเลือกหาซื้อลุกสุนัขจากผู้เพาะพันธุ์ที่จะถูกใจ คุณจะมีมากกว่าการที่คุณจะให้สุนัขของคุณมีลุกเสียอีก
- อยากให้สุนัขมีลุกเพราะอยากเลี้ยงลูกสุนัขตัวเล็กๆ
ข้อคิด การเลี้ยงลูกสุนัขเล็กๆทั้งฝูงนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย หากคุณยังไม่เคย มันทั้งเหนื่อย ใช้เงินเยอะ ในการเลี้ยงเค้าให้ดีที่สุดนี้ คุณแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน ยิ่งลูกสุนัขเยอะก็จะยิ่งเหนื่อยเยอะ ความสุขที่เลี้ยงสุนัขตั้งแต่แรกเกิดนั้นก็เท่าๆกับการเลี้ยงลุ กสุนัขตัวเดียวที่ซื้อมาหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้นการเลี้ยงเค้าตั้งแต่เล็กมาเท่าไหร่ มันไม่ได้เกี่ยวกับความผูกพันธุ์ความรักที่คุณมีให้กับเค้าเลยแ ม้แต่น้อย ซึ่งถ้าคุณอยากได้ลูกสุนัขแล้วละก็ ขอแนะนำว่าให้ไปหาซื้อมาจะดีกว่า เพราะคุณจะไม่ต้องเหนื่อยกังวลใจกับปัญหาหลายๆอย่าง หาเจ้าของใหม่ และเสียงที่จะเก็บลูกสุนัขไว้มากเกิน
-อยากให้สุนัขมีลุกแล้วขายลูกสุนัขเพื่อเอากำไรคืน
ข้อคิด จากการสอบถามผู้เพาะพันธุ์สุนัขนั้น แทบจะไม่มีใครเลยที่บอกว่าจะไดกำไรจากการเพาะลุกสุนัขขาย ถึงถ้ามีก็ไม่ได้มากอย่างที่คิด เพราะการเลี้ยงลุกสุนัขนั้นจะต้องมีค่าใช้จ่ายมากมาย ค่าอาหาร ค่ายา ค่าวัคซีน ค่าน้ำ ไฟ ฯลฯ และคุรมั้นใจได้อย่างไรว่าคุณจะสามารถขายลูกสุนัขเหล่านั้นได้ห มด แล้วถ้าขายไม่หมดคุณจะทำอย่างไร ซึ่งบางทีอาจจะทำให้คุณขาดทุน และเหนื่อยเปล่าเสียด้วยซ้ำไป
- อยากให้สุนัขมีลูกเพราะจะเริ่มธุรกิจเพาะพันธุ์สุนัข
ข้อคิด มีคนมากมายที่คิดว่าการเพาะสุนัขขายนั้นได้เงินดีเพาะขาย ได้ราคา แต่คุณต้องคิดว่าผู้เพาะพันธุ์ที่สามารถขายลุกสุนัขได้ตัวละหลา ยหมื่นนั้น จะต้องจ่ายค่าพ่อแม่พันธุ์เท่าไหร่ ค่าอาหารที่ดีที่สุดตกเดือนละกี่บาท ค่าก่อสร้างพื้นที่ห้องต่างๆ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแอร์ ค่าคนดูแลทำความสะอาด ค่าโฆษณา ค่าเดินทางไปงานประกวด ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย ซึ่งผู้เพาะสุนัขส่วนใหญ่นั้น ทำด้วยใจรักจริงๆเท่านั้น แถมบางทีต้องต่อสู้กันในเรื่องของราคาอีกต่างหาก ส่วนพวกที่ทำแล้วได้กำไรจริงๆเยอะๆนั้น ส่วนมากเป็นประเภทหากินกับสุนัขเท่านั้น ขังกรงทั้งวัน อยู่ในที่สกปรก ให้ผสมทุกครั้งที่เป้นสัด ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนรักสุนัขจริงๆเค้าทำกัน...
ปลาน้ำจืดไทย ป่าเขา-ทะเลไทย เที่ยวจัง!...ตังค์จะหมดแล้ว...
ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
http://www.dogthailand.net
1. นิตยสารรายเดือนสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพสัตวแพทย์
ปีที่ 1 ฉบับที่ 1/ตุลาคม 2545 หน้า 27
2. นิตยสาร ชามู ควอเตอร์ลี่ ฉบับเดือน กพ.-เมษ. 2546
3. http://www.calf.vetmed.ucdavis.edu/
4. http://www.elginarea.org/kindness/spay.html
5. http://www.exoticbengals.com/spay.htm
6. http://www.thaidogcenter.com/forum/forum_posts.asp?TID=3337
7.www.tagsinbangkaew.com
8.www.bangkaew.com
|