  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		| 
			สถิติผู้เข้าชม
		 | 
	 
	
		
			  ขณะนี้มีผู้เข้าใช้
		 | 
		
			13
		 | 
	 
	
		
			  ผู้เข้าชมในวันนี้
		 | 
		
			405
		 | 
	 
	
		
			  ผู้เข้าชมทั้งหมด
		 | 
		
			5,810,623
		 | 
	 
	
	
	
  |  
	 |  
	| 
 |  
 
	
	
		 |  
		
			
				
	
		| 
					4 พฤศจิกายน 2568
				 | 
	 
	
				| 
			อา		 | 
				
			จ.		 | 
				
			อ.		 | 
				
			พ.		 | 
				
			พฤ		 | 
				
			ศ.		 | 
				
			ส.		 | 
			 
	|   |   |   |   |   |   | 						
					1  |  						| 
					2  | 						
					3  | 						
					4  | 						
					5  | 						
					6  | 						
					7  | 						
					8  |  						| 
					9  | 						
					10  | 						
					11  | 						
					12  | 						
					13  | 						
					14  | 						
					15  |  						| 
					16  | 						
					17  | 						
					18  | 						
					19  | 						
					20  | 						
					21  | 						
					22  |  						| 
					23  | 						
					24  | 						
					25  | 						
					26  | 						
					27  | 						
					28  | 						
					29  |  						| 
					30  | 						
					  | 						
					  | 						
					  | 						
					  | 						
					  | 						
					  |   
			 | 
		 
		 |  
	 
	
	
	
		 | 
		
						
				 			
							
		
							
					 
				
					 | 
	 
	
		 | 
	 
	
	
				
	
		
			
				ดาหลา
			
			 
			[20 กันยายน 2554  15:01 น.]จำนวนผู้เข้าชม 8411 คน		 | 
	 
	
		| 
					
								 | 
	 
	
		
			ดาหลา 
 
  
 
ชื่อวิทยาศาสตร์  :  Etlingera elatior (Jack) R.M. Sm. 
ชื่อสามัญ  :  Torch Ginger 
ชื่อวงศ์  :  Zingiberaceae 
ชื่ออื่น ๆ  :  ดาหลา, กาหลา (ภาคกลาง), กะลา, จินตะหรา (ภาคใต้) 
 
     มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในไทยพบทั่วทุกภาคตามป่าดิบชื้น เป็นพืชวงศ์เดียวกับขิง ข่า นิยมปลูกเป็นไม้ประดับกันมาก มีลำต้นเป็นเหง้าทอดเลื้อยใต้ดิน เจริญเป็นกอสูงกว่า 2 เมตร ใบรูปขอบขนานเรียงสลับในระนาบเดียวกัน ปลายใบเรียวแหลม ใต้ใบสีม่วงแดง ยาวกว่า 50 ซม. ช่อดอกออกจากเหง้าใต้ดินชูตั้งขึ้นสูง กลีบรองดอกมีทั้งสีแดงอมชมพูและสีขาว ดอกบานได้นานกว่าหนึ่งเดือน จนติดผลดอกดกในช่วงฤดูฝน 
 
วิธีบริโภค 
     หน่ออ่อนนำมาปอกเปลือกนอกออก ส่วนลำต้นเหนือดินปอกเปลือกนอกออกให้เหลือแต่แกนกลางแล้วนำมาลวกหรือกินสด รสเผ็ดซ่า ส่วนดอกตูมนิยมกินกลีบรองดอกสีชมพูหรือขาว มีรสเปรี้ยว ชาวใต้นิยมซอยทั้งหน่อ แกนกลางและดอกใส่ข้าวยำ หรือกินกับน้ำพริก บ้างก็นำกลีบรองดอกใส่ในแกงเผ็ด แกงกะทิ แกงคั่ว หรือทำเป็นเครื่องดื่มแก้กระหาย 
 
ประโยชน์อื่น ๆ  
     ดอกดาหลามีสรรพคุณทางยา แก้โรคผิวหนัง ลมพิษ และมีฤทธิ์ในการขับลม 
 
ที่มา  :  หนังสือ "ผักพื้นบ้าน 2" โดย อุไร จิรมงคลการ 
		 | 
	 
		
		| 
			
		 | 
	 
	 
 
 |  
		 
 
		 |