พยาธิหนอนหัวใจ(จบ)

สถิติผู้เข้าชม
ขณะนี้มีผู้เข้าใช้	3
ผู้เข้าชมในวันนี้	60
ผู้เข้าชมทั้งหมด	5,476,751

กรุณาฝาก Email ของท่าน
เพื่อรับข่าวสาร ที่น่าสนใจ

27 ธันวาคม 2567
อา	จ.	อ.	พ.	พฤ	ศ.	ส.
1	2	3	4	5	6	7
8	9	10	11	12	13	14
15	16	17	18	19	20	21
22	23	24	25	26	27	28
29	30	31

พยาธิหนอนหัวใจ(จบ)
[31 กรกฎาคม 2553 19:40 น.]จำนวนผู้เข้าชม 6657 คน

พยาธิหนอนหัวใจ(จบ)

   พยาธิหนอนหัวใจ เกิดจากพยาธิตัวกลมชนิดหนึ่งที่อยู่ในตัวน้องตูบ โดยตัวแก่จะเจริญเติบโตอยู่ในหัวใจของน้องตูบเคราะห์ร้าย จากนั้นก็จะผสมพันธุ์แล้วขยายเผ่าพันธุ์ของมันด้วยการปล่อยตัวอ่อนออกมาเพ่นพ่านในสายเลือดทั่วร่างกายของน้องตูบ

   ตานี้เมื่อยุงมาดูดเลือดน้องตูบก็จะได้ตัวอ่อนพยาธิหนอนหัวใจนี้ติดตัวเป็นของแถมไปด้วย

   โชคยังดีครับ ผมถามหมอปานเทพ รัตนากรแล้ว พยาธิชนิดนี้ไม่ติดต่อถึงคน ไม่อย่างนั้นคงวุ่นวายพิลึกหล่ะ...ดีไม่ดีน้องตูบกับคนจะไม่มองหน้ากันก็ได้ตัวอ่อนพยาธิหนอนหัวใจเหล่านี้จะพัฒนาตัวเองในตัวยุงให้เติบโตขึ้น พอยุงไปกัดหมาตัวอื่นเข้า ตัวอ่อนเหล่านี้ก็จะกลับเข้าไปสู่สายเลือดของน้องตูบตัวใหม่อีก จากนั้นเมื่อเติบโตได้ที่ก็จะเดินทางเข้าไปเป็นตัวแก่ในหัวใจน้องตูบ ผสมพันธุ์แล้วปล่อยลูกปล่อยหลานตามสายเลือด กลายเป็นวงจรชีวิต(อุบาทว์)ของพวกมัน

   แต่ก่อนแต่ไร การเผยแพร่พันธุ์ของพยาธิหนอนหัวใจก็มีแค่ยุงทำหน้าที่ให้ แต่มาถึงตอนนี้ผมได้ข่าวว่ามีการถ่ายเลือดให้น้องตูบ ดังนั้นคงต้องระวังให้ดี มิฉะนั้นจะเดือดร้อนได้ของแถมไปอย่างไม่รู้ตัวก็เป็นได้

   น้องตูบที่มีพยาธิหนอนหัวใจไม่ว่าตัวอ่อนตัวแก่จะแสดงอาการไอแห้งๆ หอบและเหนื่อยง่าย ด้วยเหตุว่าพยาธิตัวแก่บางตัวอาจหลุดลอยจากหัวใจแล้วเข้าไปอยู่ในปอดซึ่งทำให้มีอาการระคายเคือง นอกจากนั้น บางตัวยังมีอาการบวมน้ำที่ขาหลังลงไปจนถึงเท้า เนื่องจากการไหลเวียนของโลหิตถูกขัดขวางด้วยตัวอ่อนพยาธิที่แหวกว่ายทำมาหากินอยู่ในเส้นเลือด

   และด้วยสาเหตุเดียวกันนี้ น้องตูบบางตัวอาจมีอาการท้องมานหากไม่ได้รับการดูแลรักษาเป็นเวลานานๆ อาการท้องมานนั้นก็คล้ายๆกับคน คือ พุงจะป่องฟ่ามน้ำ ดูน่าเกลียดพิลึก ไม่ว่าน้องตูบหรือคน

   อาการท้องมานี้เกิดจากน้ำในหลอดเลือดเล็ดลอดออกไปสะสมอยู่ในช่องท้องเป็นจำนวนมาก บางทีถึงขนาด 2-3 ลิตร น้ำที่มากผิดปกติในช่องท้องเหล่านี้จะไปเพิ่มความดันในช่องท้องซึ่งจะกดกระบังลม ทำให้น้องตูบตัวนั้นหายใจไม่สะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากล้มตัวลงนอนก็จะยิ่งหายใจลำบากมากยิ่งขึ้น

   น้องตูบท้องมานเหล่านี้จึงจำเป็นต้องนั่งหลับเอา แถมยังต้องอ้าปากพะงาบๆหายใจแรงๆเป็นที่น่าเวทนายิ่งนัก หากทิ้งไว้นานเข้าน้องตูบตัวนี้ก็จะต้องถึงแก่ความตายไปอย่างทนทุกข์ทรมาน...

   ฟังดูแล้วพยาธิหนอนหัวใจจึงนับว่าน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่ต้องห่วงครับ หมอน้องตูบท่านบอกว่ารักษาได้ และป้องกันได้

   วิธีการรักษาจะแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน

   อย่างแรกคือ บำรุงร่างกายของน้องตูบให้แข็งแรงเสียก่อนพร้อมกับลดอาการข้างเคียง เช่น อาการไอ อาการท้องมาน เป็นต้น    พอแข็งแรงดีแล้วก็ฉีดยาผสมสารหนูเข้าไปในเส้นเลือดเพื่อฆ่าไอ้ตัวแก่ ช่วงนี้จะมีเรื่องอันตรายมากตามมา เพราะซากศพของไอ้ตัวแก่จะเที่ยวล่องลอยไปตามกระแสโลหิต ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน คือ การอุดตันของหลอดเลือดในปอด น้องตูบจะไอและหอบมากขึ้น บางครั้งถึงตายเอาง่ายๆ จึงต้องให้น้องตูบพักฟื้นอย่างน้อย 1 เดือนหลังจากได้รับยาครบชุด

   ขั้นสุดท้าย หลังจากฉีดยาชุดแรกไป 1 เดือน หมอก็จะให้ยาฉีดหรือยากินอีก 1 ชุด แล้วตรวจเลือดน้องตูบดูว่ายังมีไอ้วายร้ายพยาธิหนอนหัวใจอยู่ในสายเลือดอีกหรือไม่ ถ้ายังมีก็ให้ยาฆ่าตัวอ่อนอีกจนกว่าจะหมดเกลี้ยงจากสายเลือด

   ใครที่โชคร้ายมีน้องตูบเป็นพยาธิหนอนหัวใจอ่านแล้วก็คงสบายใจขึ้น หมอยืนยันหากได้รับการรักษาอย่างถูกต้องแล้ว โอกาสหายมีมากกว่าตายครับ

   สำหรับการป้องกันที่ดีที่สุดนั่นคือ อย่าให้ยุงกัด แต่ถ้าไม่สะดวกเพราะเจ้าของเองก็ต้องนั่งตบยุงอยู่ทุกเช้าค่ำเช่นเดียวกัน ก็ให้กินยาป้องกันหรือฉีดยาป้องกันเสีย และถ้าจะให้ดีก็ควรให้หมอตรวจเลือดประจำปีเสียด้วย หากพบเข้าจะได้จัดการกันได้ทันท่วงที

   ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกประการที่ผมไม่นำมาเล่าเพราะเห็นว่าหนทางที่ดีที่สุดในการป้องกันและรักษาโรคนี้ก็คือ ปรึกษาสัตวแพทย์จะดีกว่าครับ...

เนื้อหาบทความมาจากหนังสือ คนรักหมา ของ เนชั่นบุ๊ค(Nation Books) แต่งโดย อ.บัญชร ชวาลศิลป์
(เนื้อหามีการดัดแปลงคำและประโยค)