  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		| 
			สถิติผู้เข้าชม
		 | 
	 
	
		
			  ขณะนี้มีผู้เข้าใช้
		 | 
		
			13
		 | 
	 
	
		
			  ผู้เข้าชมในวันนี้
		 | 
		
			394
		 | 
	 
	
		
			  ผู้เข้าชมทั้งหมด
		 | 
		
			5,810,612
		 | 
	 
	
	
	
  |  
	 |  
	| 
 |  
 
	
	
		 |  
		
			
				
	
		| 
					4 พฤศจิกายน 2568
				 | 
	 
	
				| 
			อา		 | 
				
			จ.		 | 
				
			อ.		 | 
				
			พ.		 | 
				
			พฤ		 | 
				
			ศ.		 | 
				
			ส.		 | 
			 
	|   |   |   |   |   |   | 						
					1  |  						| 
					2  | 						
					3  | 						
					4  | 						
					5  | 						
					6  | 						
					7  | 						
					8  |  						| 
					9  | 						
					10  | 						
					11  | 						
					12  | 						
					13  | 						
					14  | 						
					15  |  						| 
					16  | 						
					17  | 						
					18  | 						
					19  | 						
					20  | 						
					21  | 						
					22  |  						| 
					23  | 						
					24  | 						
					25  | 						
					26  | 						
					27  | 						
					28  | 						
					29  |  						| 
					30  | 						
					  | 						
					  | 						
					  | 						
					  | 						
					  | 						
					  |   
			 | 
		 
		 |  
	 
	
	
	
		 | 
		
						
				 			
							
		
							
					 
				
					 | 
	 
	
		 | 
	 
	
	
				
	
		
			
				มะยม
			
			 
			[3 ตุลาคม 2554  15:29 น.]จำนวนผู้เข้าชม 7396 คน		 | 
	 
	
		| 
					
								 | 
	 
	
		
			มะยม 
 
  
 
ชื่อวิทยาศาสตร์  :  Phyllanthus acidus (L.) Skeels 
ชื่อสามัญ  :  Gooseberry Tree, Star Gooseberry 
ชื่อวงศ์  :  Euphorbiaceae 
ชื่ออื่น ๆ  :  มะยม (ทั่วไป) 
 
     กระจายพันธุ์ทางตอนใต้ของทวีปเอเชียและเขตร้อนของทวีปอเมริกา เป็นไม้พุ่ม อายุหลายปี สูงได้ถึง 10 เมตร ลำต้นขรุขระ ใบรูปไข่ ปลายแหลม เรียงสลับกัน ยอดอ่อนมีสีแดงเรื่อ ช่อดอกออกตามกิ่งก้านและลำต้น มีดอกแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน ไม่มีกลีบดอก มีกลีบรวม 6 กลีบ สีเหลืองอ่อน สำหรับต้นดอกเพศผู้ สังเกตง่าย ๆ คือ ออกดอกแล้วไม่ติดผล ส่วนต้นที่มีดอกเพศเมียจะติดผลกลมแป้น มีรอยหยักเว้าเป็นพู 5 - 6 พู เมื่อแก่มีสีเหลืองอ่อน 
 
วิธีบริโภค 
     ยอดอ่อนที่มีสีแดงเรื่อรสฝาดมัน กินกับน้ำพริก ส้มตำ ลาบ อาหารรสจัดต่าง ๆ หรือนำมาชุบแป้งทอด ให้ฟอสฟอรัสและวิตามินซีสูง ชาวญวนใช้ใบมะยมสดมาห่อแหนมก่อนห่อด้วยใบตอง เพราะทำให้มีรสเปรี้ยวช้า เก็บได้นานโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น ส่วนผลมีในช่วงปลายฤดูหนาวเข้าฤดูร้อน ใช้ปรุงอาหารเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยว เช่น แกงคั่ว หรือใส่ในส้มตำแทนมะละกอ และกินเป็นผลไม้ ถ้ามีมากนำมาเชื่อม ดอง กวน ทำแยม กินเป็นขนม หรือทำเครื่องดื่ม ให้แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ และวิตามินซีพอควร 
 
ประโยชน์อื่น ๆ  
     ด้านสมุนไพร นิยมใช้รากของมะยมต้นตัวผู้มาปรุงยาแก้โรคผิวหนัง ช่วยขับน้ำเหลือง ขับพิษ เพราะเชื่อว่ามีตัวยาแรงกว่า เปลือกต้นแก้ไข้ทับระดู ใบใช้เป็นส่วนผสมในยาเขียว ช่วยลดไข้ หรือนำมาต้มกับใบมะเฟือง หมากผู้หมากเมีย ใช้อาบแก้ลมพิษ แก้ไข้ หัด อีสุกอีไส และแก้คันได้ผลดี 
 
ข้อควรระวัง 
     รากมะยมมีพิษ ใช้เป็นยาเบื่อสัตว์ได้ โดยตำผสมกับอาหาร ถ้าคนกินจะเกิดอาการเมา คลื่นเหียนอาเจียนได้ 
 
เกร็ด 
     มะยมเป็นไม้มงคลที่ควรปลูกในทิศตะวันตก จะทำให้มีคนนิยมชมชอบ มีเมตตามหานิยม ในงานพิธีต่าง ๆ มักนำใบมะยมมามัดรวมกันและใช้ประพรมน้ำมนต์ ถ้ารูดใบออกให้เหลือแต่ก้านก็ตีเจ็บนัก บ้างก็ใช้ในพิธีทางไสยศาสตร์เพื่อให้คนรักใคร่ โดยนำเนื้อไม้มะยมมาแกะสลักเป็นตุ๊กตาเล็ก ๆ คู่กับตุ๊กตาที่ทำจากไม้รัก ใส่ในขวดเล็ก ๆ แช่น้ำมันจันทน์ แล้วนำมาปลุกเสก 
 
ที่มา  :  หนังสือ "ผักพื้นบ้าน 2"  โดย อุไร จิรมงคลการ		 | 
	 
		
		| 
			
		 | 
	 
	 
 
 |  
		 
 
		 |