|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
สถิติผู้เข้าชม
|
ขณะนี้มีผู้เข้าใช้
|
9
|
ผู้เข้าชมในวันนี้
|
312
|
ผู้เข้าชมทั้งหมด
|
5,477,003
|
|
|
|
|
27 ธันวาคม 2567
|
อา |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ |
ศ. |
ส. |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 |
31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อึน้องตูบหน้าบ้าน
[23 กรกฎาคม 2553 21:23 น.]จำนวนผู้เข้าชม 6185 คน |
|
อึน้องตูบหน้าบ้าน
หมู่บ้านที่ผมมาผ่อนเขาอยู่ทุกวันนี้ ตั้งอยู่ที่ชานเมืองแถวอำเภอปากเกร็ด นนทบุรี ซึ่งเดิมเป็นสวนผลไม้ของชาวบ้าน และอยู่ห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยาไม่มากนัก รอบๆหมู่บ้านทุกวันนี้มีพื้นที่อีกไม่น้อยซึ่งยังไม่ถูกเอาไปแปลงให้เป็นทุน และเลยไปอีก 2-3 กิโลเมตร ก็จะมีวัดซึ่งเป็นแหล่งดูนกอันเป็นที่รู้จักกันดี
เกริ่นนำเช่นนี้ เพื่อให้คุณผู้อ่านได้เห็นภาพความน่ารื่นรมย์ของบรรยากาศชานเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้าของหมู่บ้านผม
ผมเป็นคนตื่นเช้าเพราะติดการออกกำลังกายก่อนไปทำงาน (ที่ทำงานผมอยู่ห่างจากบ้านด้วยระยะทางขับรถประมาณ 15 นาที...ขอโปรดอย่าอิจฉา) พอออกกำลังกายเสร็จกระบวนการผมก็จะออกมาเดินรอบๆรั้วบ้าน สำรวจความสะอาดเรียบร้อย แล้วก็ถือโอกาสชื่นชมกับบรรยากาศชานเมืองในตอนเช้าอย่างนี้ไปด้วย
แต่แล้วจู่ๆความรื่นรมย์ก็สะดุด สารแห่งความสุขเอนโดรฟีนที่สมองกำลังหลั่งหลังการออกกำลังกายพลอยชะงักไปด้วย แล้วขับสารแห่งความเครียดอะดรีนาลีนออกมาแทน
เด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายซึ่งบ้านอยู่ถัดไปหลายหลังกำลังจูงน้องตูบสุดที่รักของเธอมาบรรจงยกขาถ่ายทุกข์อยู่ตรงถนนสาธารณะริมรั้วหน้าบ้านผม...
ผมเดินเข้าไปหา สายตาที่สบกันแว่บหนึ่งทำให้ผมเห็นแววเตรียมต่อสู้อยู่ในนั้น ซึ่งทำให้ผมรู้สึกตัวและระงับความคิดเตรียมโจมตีอย่างรุนแรงด้วยความโกรธของตัวเองลงเสีย
ผมมั่นใจว่า ผมมีสิทธิ์โกรธร้อยเปอร์เซ็นต์กับการกระทำของเธอ เธอมีสิทธิ์อะไรเที่ยวเอาน้องตูบของตัวเองไปขี้หน้าบ้านคนอื่นเช่นนี้ และแน่นอนรวมทั้งที่สาธารณะซึ่งเป็นของส่วนรวมด้วย ผมแน่ใจด้วยซ้ำไปว่า นี่เป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย
แต่แววตาเตรียมต่อสู้ของเด็กรุ่นลูกทำให้ผมคิดได้ ทว่าก็ยังคงเดินเข้าไปหา แล้วประโยคแรกที่ปล่อยออกไปก็ไม่ใช่ถ้อยคำโจมตีเผ็ดร้อนที่แว่บเข้ามาในห้วงความคิดครั้งแรก
"เขาไม่ยอมอึในบ้านหรือลูก"
เด็กสาวทำท่าแปลกใจ แล้วแววตาในดวงตาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นตอบสั้นๆว่า "ค่ะ...หนูเลยต้องพามาถ่ายนอกบ้านอย่างนี้" (เธอไม่ใช้คำว่าหน้าบ้านคนอื่น)
"แล้วเคยหัดเขาไหมล่ะลูก" ผมก้มลงมองเจ้าตูบพันธุ์ผสมซึ่งคะเนว่าอายุคงไม่เกิน 6 เดือน ยังเป็นไม้อ่อนที่พอจะดัดได้
"หัดยังไงจ๊ะลุง" เด็กสาวถามอย่างตั้งใจ ทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวที่เคยเป็นหัวข้อสนทนากับ คุณหมอปานเทพ รัตนากร ที่ว่า วัฒนธรรมเลี้ยงน้องตูบแบบสังคมคนเมืองบ้านเรายังเป็นของใหม่ นึกรักน้องตูบอยากเลี้ยงน้องตูบก็ไปหาซื้อเข้าบ้าน ไม่ได้ศึกษาด้วยซ้ำไปว่าบ้านแบบไหน ที่อยู่อาศัยแบบไหน ควรจะเลี้ยงน้องตูบพันธุ์ไหน แน่นอน รวมทั้งเรื่องอาหารการกิน และที่สำคัญก็อย่างที่เห็นกับเด็กสาวคนนี้...เรื่องน้องตูบขี้
"ที่บ้านลุงเวลาเอาน้องตูบตัวใหม่เข้าบ้าน เราก็จะต้องเอาใจใส่ พอเห็นเขาทำท่าปวดอึปวดฉี่เมื่อไหร่ ก็จัดการยกเขาไปยังที่ที่เราเตรียมไว้...
ลุงมีกรงน้องตูบเก่าๆที่ไม่ใช้แล้วอยู่กรงหนึ่ง ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เก่าๆปูรองไว้ พอน้องตูบที่เราจะหัดทำท่าปวดท้องก็ยกเขาให้ไปถ่ายที่กรงใบนี้ ทำอย่างนี้ไม่กี่ครั้งเขาก็จะรู้ว่า นี่คือส้วมของเขา" เด็กสาวตั้งใจฟังตาแป๋ว
"ขอบคุณค่ะคุณลุง หนูจะลองไปทำดูบ้าง แต่กองนี้เดี๋ยวหนูไปเอากระดาษมาเก็บให้นะคะ ขอโทษด้วยค่ะ"
เรื่องนี้จบลงด้วยดี ไม่กลายเป็นเหตุของความอาฆาตจนต้องยกพวกตีกันเหมือนบางบ้านที่เคยได้ยินมา และหลังจากนั้น ผมก็ไม่เห็นแม่หนูกับไอ้ตัวน้อยของเธอมาทำลายบรรยากาศรื่นรมย์ยามเช้าหน้าบ้านผมอีกต่อไป
แต่ผมไม่ทราบว่า เธอประสบความสำเร็จในการฝึกน้องตูบของเธอให้ถ่ายเป็นที่เป็นทาง หรือว่าเธอจูงมันไปปลดทุกข์ที่หน้าบ้านคนอื่นแทนที่จะเป็นบ้านผม
ผมได้แต่เอาใจช่วยครับ...
เนื้อหาบทความมาจากหนังสือ คนรักหมา ของ เนชั่นบุ๊ค(Nation Books) แต่งโดย อ.บัญชร ชวาลศิลป์
(เนื้อหามีการดัดแปลงคำและประโยค)
ปลาน้ำจืดไทย ป่าเขา-ทะเลไทย เที่ยวจัง!...ตังค์จะหมดแล้ว...
สิ่งที่เห็นได้ยากที่สุดของคนเรา คือการมองเห็นตัวเอง...
|
|
|
|