  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		| 
			สถิติผู้เข้าชม
		 | 
	 
	
		
			  ขณะนี้มีผู้เข้าใช้
		 | 
		
			11
		 | 
	 
	
		
			  ผู้เข้าชมในวันนี้
		 | 
		
			392
		 | 
	 
	
		
			  ผู้เข้าชมทั้งหมด
		 | 
		
			5,810,610
		 | 
	 
	
	
	
  |  
	 |  
	| 
 |  
 
	
	
		 |  
		
			
				
	
		| 
					4 พฤศจิกายน 2568
				 | 
	 
	
				| 
			อา		 | 
				
			จ.		 | 
				
			อ.		 | 
				
			พ.		 | 
				
			พฤ		 | 
				
			ศ.		 | 
				
			ส.		 | 
			 
	|   |   |   |   |   |   | 						
					1  |  						| 
					2  | 						
					3  | 						
					4  | 						
					5  | 						
					6  | 						
					7  | 						
					8  |  						| 
					9  | 						
					10  | 						
					11  | 						
					12  | 						
					13  | 						
					14  | 						
					15  |  						| 
					16  | 						
					17  | 						
					18  | 						
					19  | 						
					20  | 						
					21  | 						
					22  |  						| 
					23  | 						
					24  | 						
					25  | 						
					26  | 						
					27  | 						
					28  | 						
					29  |  						| 
					30  | 						
					  | 						
					  | 						
					  | 						
					  | 						
					  | 						
					  |   
			 | 
		 
		 |  
	 
	
	
	
		 | 
		
						
				 			
							
		
							
					 
				
					 | 
	 
	
		 | 
	 
	
	
				
	
		
			
				เทา
			
			 
			[2 กันยายน 2554  14:57 น.]จำนวนผู้เข้าชม 8911 คน		 | 
	 
	
		| 
					
								 | 
	 
	
		
			เทา 
 
  
 
ชื่อวิทยาศาสตร์  :  Spirogyra ap. 
ชื่อวงศ์  :  Zygnemataceae 
ชื่ออื่น ๆ   :  เทา, เตา (ภาคเหนือ, ภาคอีสาน) 
 
     เทา บางคนฟังชื่อแล้วอาจไม่คุ้นหูหรือไม่เข้าใจว่าเป็นผักพื้นบ้านได้อย่างไร เทาหรือเตาเป็นสาหร่ายที่พบในธรรมชาติตามแหล่งน้ำสะอาด ลักษณะเป็นเส้นยาว ไม่แตกกิ่งก้าน สีเขียว เมื่อสัมผัสจะเป็นเมือกลื่น 
 
วิธีบริโภค 
     ชางบ้านในภาคอีสานและภาคเหนือนิยมเก็บเทามากินสด ๆ โดยทำเป็นลาบเทาหรือยำเทา ชาวเหนือจะตำเตาใส่น้ำปู๋ ซึ่งเป็นเมนูที่นิยมกันมาก เรียกว่า "ยำเขียว" ซึ่งให้แคลเซียม ธาตุเหล็ก และวิตามินเอสูง 
 
วิธีการเก็บเทา  
     หลายคนอาจไม่กล้ากิน เพราะกลัวจะสกปรก แท้จริงแล้วเทาเป็นสาหร่ายที่ขึ้นในน้ำสะอาด มีมากในฤดูฝน ชาวบ้านมักช้อนเทามาจากแหล่งต้นน้ำในธรรมชาติ โดยจะเก็บเฉพาะที่มีสีเขียวสด ถ้าเป็นสีเขียวอมเหลืองจะเป็นเทาที่แก่แล้ว จากนั้นจะนำมาล้างหลาย ๆ ครั้ง จนสะอาดจึงนำมาประกอบอาหารได้ 
     นอกจากเทาแล้วยังมีสาหร่ายอีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกันมาก เรียกว่า ไค หรือ ไก (Cladophora sp.) แต่เส้นจะใหญ่และหยาบ พบมากในแม่น้ำโขง แม่น้ำรวก และแม่น้ำกก ปัจจุบันมีการผลิตเป็นไกแผ่นปรุงรสที่กินได้ทันที 
 
ที่มา  :  หนังสือ "ผักพื้นบ้าน 1" โดย อุไร  จิรมงคลการ		 | 
	 
		
		| 
			
		 | 
	 
	 
 
 |  
		 
 
		 |