คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันสัตว์เลี้ยงมีอายุยืนยาวขึ้น เนื่องจากเจ้าของมีความรู้ในการเลี้ยงดูสัตว์มากขึ้นและความเจริญก้าวหน้าของ การตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคของสัตว์ เจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่เริ่มให้ความสำคัญกับ การฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ป้องกันเห็บหมัดและพยาธิหนอนหัวใจ
สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เมื่อสัตว์เลี้ยงของท่านมีอายุยืนขึ้น คือสุขภาพช่องปาก สุนัขอายุมากส่วนใหญ่ที่พบมัก มีปัญหากลิ่นปาก หินปูน เหงือกอักเสบ และอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เจ้าของและสัตวแพทย์ต้องหนักใจคือ การที่สุนัขอายุมากขึ้นทำให้ความเสี่ยงในการวางยาสลบเพื่อทำการขูดหินปูน หรือรักษาเหงือกอักเสบเพิ่มมากขึ้น สุดท้ายสัตวเลี้ยงเหล่านั้นต้องทนอยู่กับความเจ็บปวด และ เสี่ยงต่อการติดเชื้อจากรากฟันที่อักเสบเข้าสู่กระแสเลือด ดังนั้นหากไม่อยากให้สัตวเลี้ยงที่คุณรักต้องมีชะตากรรมเช่นนั้น ควรดูแลสุขภาพของช่องปากตั้งแต่วันนี้ |
การดูแลสุขภาพช่องปากไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแต่ต้องอาศัยความเอาใจใส่ที่สม่ำเสมอ ขั้นตอนสำคัญมีดังนี้ |
• หมั่นพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ โดยตรวจร่วมกับช่องปาก
• ขูดหินปูน ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
• ดูแลช่องปากโดยเจ้าของทำเองที่บ้านทุกวัน
สองขั้นตอนแรกให้เป็นหน้าที่ของสัตวแพทย์ในการตรวจช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นการดูการสบกันของฟันกราม สมมาตรของใบหน้า ขนาดของต่อมน้ำลาย สภาพเพดานปาก เหงือก และฟัน การวางยาสลบ การขูดหินปูน เอ็กเรย์ฟันและถอนฟันที่ผุตามความเหมาะสม แต่หน้าที่ขั้นที่สามที่สำคัญไม่แพ้กันเป็นหน้าที่ของเจ้าของ ที่ควรทำคือ การเปิดดูฟันของสัตว์เลี้ยง และการแปรงฟันเป็นประจำสม่ำเสมอ |
การเปิดดูช่องปากสัตว์เลี้ยง ควรสังเกตสีของเหงือก ตรวจในช่องปากว่ามีเลือดออกหรือไม่ ดูสีของฟัน คราบต่างๆ สิ่งแปลกปลอม ก้อนเนื้อ ในปาก รวมถึงต้องดมกลิ่น ว่ามีกลิ่นเน่าเหม็นผิดปกติหรือไม่ หากมีสิ่งผิดปกติควรพา ไปพบสัตวแพทย์ทันทีอย่าปล่อยทิ้งไว้ |
|
การแปรงฟัน เจ้าของสามารถช่วยทำได้แน่นอนและไม่ยากเลย โดยสุนัขและแมวต้องการการแปรงฟันเช่นเดียวกับคน เพราะสุนัขและแมวในธรรมชาติมีรูปแบบการกินอาหารที่ต่างจากสัตว์เลี้ยงในบ้าน คือมีการฉีก การแทะ การเคี้ยวอาหารที่หลากหลาย บ้างก็เหนียวบ้างก็แข็ง และที่สำคัญอายุของสุนัขในธรรมชาติไม่ยืนยาวเท่าสุนัขที่เลี้ยง
สุนัขและแมวที่เลี้ยงตามบ้านมักมีการกินอาหารแบบเดิมๆ ยิ่งถ้าเจ้าของให้ทานอาหารนิ่มๆโฮมเมด มักจะเกิด การสะสมของคราบอาหารง่ายมากขึ้น ยิ่งอายุเพิ่มขึ้นคราบเหล่านั้นก่อตัวเป็นหินปูน สะสมจนพอกหนาเป็นสาเหตุ ของกลิ่นปากและปัญหาสุขภาพต่างๆตามมา เช่น ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ในกระแสเลือดส่งผลให้เป็นโรคตับ โรคไต และลิ้นหัวใจอักเสบ ดังนั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักกับการแปรงฟันสัตว์เลี้ยงกันดีกว่า
• การเริ่มต้นแปรงฟัน ที่สำคัญไม่อยากให้คิดว่าการแปรงฟันเป็นภาระของเจ้าของ แต่ควรเป็นช่วงเวลาที่ท่านได้ร่วมสนุกกับสัตว์เลี้ยงของเราต่างหาก จึงไม่ควรบังคับจนเกินไป ค่อยๆตะลอมๆอย่างนุ่มนวล ช่วงแรกอาจต้องอาศัยความอดทนและใจเย็น เมื่อผ่านช่วงแรกไปได้ สัตว์เลี้ยงจะรอคอยเวลาการแปรงฟันจากท่าน เจ้าของไม่ควรใช้เสียงดังหรือการจับบังคับที่ทำให้ สัตว์เลี้ยงกลัว ควรเรียกชื่อและลูบเล่นสักพักก่อนจะเลื่อน มือเข้าใกล้ปาก แรกๆอาจแตะนิ้วกับสิ่งที่เค้าชอบกินแล้วลูบนิ้วตาม ขอบเหงือกและโค่นฟัน เมื่อชินค่อย เริ่มใช้อุปกรณ์ช่วย คนที่เล็บยาวหรือคมระวังเล็บจะขูดเหงือกสัตว์เลี้ยง จึงต้องมั่นใจว่าเล็บไม่คมเกิดเป็น อันตรายง่าย
• อุปกรณ์ที่ใช้ สิ่งแรกคือยาสีฟันสำหรับสัตว์เลี้ยง ต้องมั่นใจว่าเป็นยาสีฟันสำหรับสัตว์ ไม่ควรใช้ของคน เพราะยาสีฟันที่ผลิตมาให้สัตว์เลี้ยงจะปลอดภัยต่อกระเพาะอาหารหากสัตว์ เลี้ยงกลืนกินเข้าไปและปัจจุบัน มีให้เลือกมากมายรสชาติหลากหลายช่วยทำให้การแปรงฟันเป็นเรื่องสนุก และส่วนใหญไม่ต้องล้างออก
สิ่งต่อมาคือ วัสดุขัดฟัน อาจเลือกใช้ แปรงสีฟัน ฟองน้ำ ผ้าก็อช โดยหัวใจของการแปรงฟันอยู่ที่การขัด คราบสิ่งสกปรกออกดังนั้นควรเลือกใช้วัสดุที่สามารถทำความสะอาดฟันได้ดีโดย ต้องเลือกให้เหมาะกับขนาดฟัน และสภาพเหงือกและฟันสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขที่เหงือกอักเสบไม่ควรใช้แปรงที่แข็ง เพราะจะทำให้เลือดออก แต่โดยทั่วไปแปรงสำหรับสัตว์เลี้ยงจะออกแบบให้นุ่มและมีรูปทรงถนัดต่อการ แปรง เช่นแปรงแบบสวมนิ้ว สำหรับช่องปากขนาดเล็ก เป็นต้น
การใช้ฟองน้ำ สำลี หรือก๊อซอาจเหมาะกับการเริ่มต้นหัดแปรงสามารถขจัดเศษอาหาร ได้แต่อย่าลืมว่าแรงขัด จากวัสดุเหล่านี้อาจไม่เพียงพอจะขจัดคราบทั้งหมด
|
ขั้นตอนการแปรงฟันสุนัข step by step
• ให้สัตว์เลี้ยงชิมยาสีฟันซึ่งมีรสต่างๆเช่น รสไก่ รสตับ จากนิ้วมือ สัตว์เลี้ยงอาจเลีย ถ้าสัตว์เลี้ยงสนใจ ก็ให้รางวัล ต้องเป็นรางวัลที่เค้าชื่นชอบจริงๆ แต่ถ้าเค้าไม่สนใจยาสีฟันอาจต้องลองรสชาติอื่น ทำเช่นนี้ 2-3วัน จนกระทั่งสัตว์เลี้ยงเริ่มตั้งตารอการเลียยาสีฟัน
• ขั้นตอนนี้เป็นการฝึกให้สัตว์เลี้ยงชินกับการมีอะไรไปป้ายระหว่างเหงือกกับ ฟัน คะ โดยให้ใช้ยาสีฟันขนาดน้อยๆเทบนนิ้วแล้วป้ายไปที่ฟันเขี้ยวเพราะเป็นซี่ที่ ใหญและเข้าถึงได้ง่ายที่สุด จากนั้นให้รางวัลพิเศษเช่น เล่นลูกบอล ทำเช่นนี้ 2-3วัน
• เมื่อสัตว์เลี้ยงเริ่มชินกับการมียาสีฟันในปาก เริ่มแนะนำวัสดุขัดฟัน ที่ท่านเลือกใช้ เช่นแปรงสวมนิ้ว อันดับแรกอย่าเพิ่งใจร้อนใช้แปรงถูกับฟัน ควรจะบีบยาสีฟันลงบนแปรงแล้วให้สัตว์เลี้ยง ทำการเลียเพื่อให้คุ้นเคยกับแปรง ทำเช่นนี้ นาน 1สัปดาห์ จนสัตว์เลี้ยงยอมเลียยาสีฟันบนแปรง อย่าลืมการให้รางวัล อาจเป็นการลูบคอระหว่างที่แปรง และชมเชย
• เมื่อคุ้นกับยาสีฟันและแปรง เริ่มทำการแปรงฟัน โดยใช้เสียงที่อ่อนโยนพร้อมกับยกเปิดริมฝีปาก ขึ้นอย่างนุ่มนวลถูทำมุม 45 องศา กับแนวเหงือก แปรงเฉพาะด้านนอกนะคะไม่ต้องแปรงด้านใน สุนัขจะไม่ชอบและอาจไม่ยอมได้เริ่มแรกแปรงแค่ฟันเขี้ยวสองซีกก่อน แล้วให้รางวัล
• เมื่อเวลาผ่านไปค่อยๆเพิ่มจำนวนซี่ฟัน จนสามารถแปรงได้ทั่วทั้งปาก และอย่าลืมคำชมเชย หรือรางวัล |
สำหรับความถี่ในการแปรงฟันนั้น จริงๆแล้วควรทำทุกวันเช่นเดียวกับคน อย่างไรก็ดี ควรทำอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะสามารถช่วยป้องกันคราบหินปูนได้เป็นอย่างดี
ขั้นตอนเหล่านี้ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงแค่ต้องการความใส่ใจ การเริ่มต้นเป็นสิ่งที่ยาก แต่เป็นสิ่งที่มีคุณค่า สำหรับสัตว์เลี้ยงที่ท่านรัก การสละเวลาเพียงไม่กี่นาทีต่อวันจะส่งผลให้เขามีสุขภาพช่องปากที่แข็งแรง พร้อมจะอยู่เคียงข้างเราไปอีกนานเท่านาน |
__________________________________________
หากมีข้อสงสัยสอบถามและติดต่อที่ vet4@loxinfo.co.th
บทความพิเศษจาก โรงพยาบาล สัตว์ สัตวแพทย์ 4 โพลีคลีนิค
|
|