 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
สถิติผู้เข้าชม
|
ขณะนี้มีผู้เข้าใช้
|
7
|
ผู้เข้าชมในวันนี้
|
914
|
ผู้เข้าชมทั้งหมด
|
5,583,007
|
|
|
|
|
14 มีนาคม 2568
|
อา |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ |
ศ. |
ส. |
| | | | | |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 |
31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
แตงโม
[14 มิถุนายน 2554 13:32 น.]จำนวนผู้เข้าชม 6022 คน |
|
แตงโม

ชื่อ : แตงโม
ชื่อสามัญ : Watermelon
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Citrullus vulgaris Schard.
วงศ์ : CUCURBITACEAE
ลักษณะทั่วไปของแตงโม
ผลที่ข้างในสีสวยสดจับตาน่ากินชนิดนี้เป็นที่โปรดปรานของคนทั่วไป แค่ผ่าครึ่งก็พบกับความชุ่มฉ่ำ หอมหวาน เย็นชื่นใจ ใคร ๆ ก็ชอบ หากลองกินแตงโมแบบไม่แช่เย็นก็จะพบกับกลิ่นที่หอมมากกว่า หรือจะลองคว้านเนื้อแดง ๆ เอามาใส่เครื่องปั่น ใส่น้ำแข็งทุบ เติมน้ำเชื่อมนิดหน่อย แล้วเปิดเครื่อง ครู่เดียวแตงโมปั่นเย็น ๆ แก้ร้อนก็มาวางอยู่ตรงหน้า กินเพลินไปทีเดียว หรือจะใช้แตงโมเหลืองไร้เมล็ดก็สวยน่ารับประทานมากถึงมากที่สุด
คุณค่าทางอาหาร
คนไทยเรากินแตงโมมานาน กินสดเฉย ๆ ดูธรรมดา จึงพลิกแพลงมาเป็นปลาแห้งแตงโม ปัจจุบันไม่ค่อยมีคนทำรับประทาน ปลาแห้งที่ว่าต้องปรุงกันด้วยน้ำตาลและหอมเจียวเหมือนที่กินกับข้าวเหนียว วิธีกินก็คือตัดแตงโมเป็นชิ้นพอคำจิ้มกับปลาแห้ง แล้วเอาเช้าปาก ก็จะได้รสกลมกล่อมของความหวาน จากน้ำแตงโมที่แหลมขึ้นด้วยน้ำตาล ความเค็มนิด ๆ ของปลาแห้ง และหอมเจียวที่หอมมัน ค่อย ๆ เคี้ยว อย่าเพิ่งน้ำลายไหลไปเสียก่อน เพราะแตงโมยังทำอาหารได้อีกหลายสูตร ทั้งลูกสุกลูกอ่อนกินได้ทั้งนั้น
การปลูกและดูแล
แตงโมนิยมปลูกเป็นพืชไร่มากกว่าปลูกไว้กินตามบ้านแต่ถ้าจะปลูกในบ้านก็คงได้เหมือนกัน ที่บ้านผู้เขียนพอมีที่อยู่เล็กน้อย เอาเมล็ดแตงโมไปทิ้งโดยไม่ตั้งใจปลูก แต่ไม่นานนักก็มีเถาอะไรบางอย่างเลื้อยทอดไปตามดิน จึงเอาไม้ไผ่ไปปักให้เลื้อยพัน สักพักเธอก็มีดอกและออกลูกมาเป็นแตงโม คนเขียนก็เก็บเอามากินอร่อยไป ถึงลูกจะเล็กกว่าที่เขาขาย ๆ กัน เพราะไม่ค่ยอได้เติมปุ๋ย แต่ก็มาจากหลังบ้านเราเอง จึงกินได้สบายใจ เถาแตงก็ไม่ได้ใหญ่โตมากมาย มีพื้นที่เล็ก ๆ แตงโมก็แทรกตัวเติบโตขึ้นจนมีลูกได้ก็แล้วกัน ใครหลายคนอาจไม่เคยเห็นเถาแตงโมเลย เถาแตงโมนั้นพอใจที่จะทอดเลื้อยไปตามพื้นมากกว่าจะขึ้นบนค้างใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกัน ใบมีรอยหยักเว้าแบบนิ้วมือ ดอกเป็นดอกเดี่ยว ดอกเพศผู้และเพศเมียอยู่บนต้นเดียวกัน ขยายพันธุ์แตงโมด้วยเมล็ดว่ากันว่าหากปลูกในที่ดอนดินดี ๆ น้ำน้อย ๆ แล้วละก็ แตงที่ได้จะสีแดงสดรสหวานกว่าธรรมดา
แตงโมมักถูกรบกวนด้วยแมลง เกษตรกรบางรายจึงมักพ่นยาฆ่าแมลงอย่างหนัก ดังนั้นเวลาซื้อมารับประทานก็ต้องล้างเปลือกนอกให้สะอาดก่อน
ว่าด้วยเรื่องกินแตงโมต่อ คราวนี้ว่ากันด้วยเรื่องคาว ๆ (ของอาหาร) บ้าง ลูกอ่อนของแตงโมนั้นเนื้อนิ่ม ขนาดเท่ากับกำปั้นผู้ใหญ่เอามาหั่นใส่แกงเลียงหรือแกงส้มก็ได้ อร่อยคนละรสกับลูกใหญ่หั่นแล้วต้มราดกะทิจิ้มน้ำพริกก็ใช่ย่อย เปลือกแตงโมหนา ๆ พันธุ์ดั้งเดิม กินเนื้อในแดงฉ่ำหมดแล้วไม่ทิ้ง แต่ฝานเอาผิวข้างนอกออกไปเหลือแต่เนื้อเปลือกขาว ๆ หั่นพอคำทำแกงส้มเสียเลย
เม็ดกวยจี๊ที่เราแทะจนลืมบ้านลืมเมืองก็มาจากแตงโม แต่เป็นแตงพันธุ์เฉพาะที่จะเก็บเอาเมล็ดเท่านั้น เนื้อแตงพันธุ์นี้จึงน้อยและสีออกชมพู ๆ
ประโยชน์ของแตงโม
สารอาหารที่ค่อนข้างน้อย คือข้อด้อยของแตงโม แต่รสเย็นของแตงโมก็ช่วยได้ในเรื่องระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหาร แถมผลไม้ในใจของหลายคนนี้ยังมีคุณค่าทางสมุนไพรอาทิ รากมีน้ำยางใช้กินแก้อาหารตกเลือดหลังการแท้ง ใบใช้ชงเป็นยาลดไข้ ผลที่แสนอร่อยนั้นมีคุณสมบัตเป็นยาเย็น ช่วยระบาย ขับปัสสาวะ ช่วยย่อย แก้ และดีซ่าน เมล็ดมีโปรตีนสูง ช่วยบำรุงร่างกาย ปอด สมอง มิน่าเล่าเวลามีเม็ดกวยจี๊อยู่ตรงหน้า เราจึงมีสมาธิดีเลิศ กินเสร็จก็ปลอดโปร่งบอกไม่ถูก ลองหาเมล็ดแตงโมมาขยายพันธุ์ในบ้านของคุณดูบ้าง ใช้พื้นที่ไม่มาก ไม่ต้องทำค้าง ไม่ต้องเสียงกับข่าวลือ เรื่องแตงโมฉีดสี ไม่ต้องพ่นยาฆ่าแมลง เท่านี้ก็ได้แตงโมหวานฉ่ำที่ทำให้ (ปลูก) มากับมือ
ที่มา : http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A1
|
|
|
|