สาเหตุ เกิดจากตัวไรที่อยู่ตามรูขุมขนในสุนัข มีชื่อเรียกว่า Demodectic mite หรือ ( D. canis) |
สายพันธุ์ที่พบบ่อยและปัจจัย โน้มนำ ในลูกสุนัขอายุตั้งแต่ 3-18 เดือน หรือในสุนัขที่โตเต็มวัย โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่เป็นพันธุ์แท้ เช่น เชาเชา ไซบีเรียน ชิสุ แต่ในสุนัขที่มีอายุมากพบว่าสาเหตุมักร่วมกับการมีความบกพร่องของระบบภูมิ การคุ้มกันในร่างกาย หรือในรายที่มีภาวะการป่วยเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคความผิดปกติต่อมหมวกไต หรือมะเร็ง จะทำให้เกิดภาวะการติดเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย โดยบางครั้งเป็นหย่อมๆ อักเสบตามผิวหนัง หากเป็นมากจะแพร่กระจายไปทั่วตัว |
การติดต่อ ไม่ติดต่อโดยการสัมผัส แต่ถ้าสุนัขตัวนั้นมีภาวะของภูมิคุ้มกันต่ำจะทำให้มีโอกาสติดต่อง่ายขึ้น พบว่ามีการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ระหว่างสายเลือด จึงไม่แนะนำในการทำพันธุ์ |
อาการและความรุนแรงของโรค ไม่แน่นอน บางตัวกระจายทั่วตัว บางตัวกระจายเฉพาะที่ เช่น รอบตา ที่หน้า อุ้งเท้า โดยจะพบการอักเสบที่รุนแรง ขนร่วง มีคราบสะเก็ดหนองแห้งหรือเปียกเกรอะกรัง และเกิดภาวะผิวหนังอักเสบรุนแรง |
ภาพ สุนัขพันธุ์เชาเชาที่เป็นขี้เรื้อนขุมขน |
การตรวจวินิจฉัยโรค สัตวแพทย์ต้องทำการขูดบริเวณที่ขนร่วงและตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะพบตัว Demodec มีรูปร่างคล้ายหัวไชเท้าจำนวนมากใน slide
การรักษาโรค
• โดยทั่วไปนิยมการฉีดยาฆ่าตัวไรโดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนัง อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกันนาน 8 ครั้ง
• หากไม่ดีขึ้นนิยมที่จะเปลี่ยนเป็นยากินในรูปยาน้ำทุกวันติดต่อกันนาน 2 เดือน หรือจนกว่าจะตรวจไม่พบตัวขี้เรื้อนที่ผิวหนังแล้ว
• การใช้ยาฆ่าตัวไร ชโลมตามผิวหนังหลังการอาบน้ำด้วยแชมพูยา โดยอาบอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
• บางตัวที่เป็นมาก อาจมีความจำเป็นที่จะต้องให้ยาปฎิชีวนะ ยาบำรุงผิวหนังเพื่อช่วยลดการอักเสบ ร่วมด้วยยาลดคัน ห้ามใช้ยาในกลุ่มสเตียร์รอยด์ ไม่ว่าในกรณีใดๆ |
ภาพ สุนัขพันธุ์ชิทสุที่เป็นขี้เรื้อนขุมขน
|
การพยากรณ์โรค พบว่าในสุนัขที่มีอายุน้อยมีโอกาสหายขาดง่ายกว่าในสุนัขที่อายุมาก มักพบการกลับมาเป็นใหม่ได้หากร่างกายไม่สมบูรณ์ จึงมีความจำเป็นที่เจ้าของสุนัขควรจะต้องเอาใจใส่ดูแลเป็นกรณีพิเศษก่อนที่ จะลุกลามไปทั่วตัว
|
ภาพ สุนัขเชาเชาและชิทสุ ตัวเดียวกับด้านบนภายหลังการรักษา |
______________________________________ |
บทความพิเศษจาก โรงพยาบาล สัตว์ สัตวแพทย์ 4 โพลีคลีนิค |