โรคช่องหูภายนอกอักเสบ
หลายท่านที่เลี้ยงสุนัขมักจะได้พบเจอโรคต่างๆเกี่ยวกับสุนัขมาไม่มากก็น้อย หนึ่งในนั้นก็น่าจะเป็นโรคช่องหูอักเสบ ซึ่งเป็นโรคที่พบบ่อยมากในสุนัข เรามาดูกันว่าโรคนี้เกิดขึ้นได้จากสาเหตุใดบ้าง
สาเหตุของปัญหาหูอักเสบนั้น แบ่งออกเป็น 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่
1.สาเหตุโน้มนำ
- ลักษณะโครงสร้างประจำพันธุ์ของสุนัขที่มีช่องหูตีบแคบ ใบหูพับลงหรือมีขนในช่องหูมาก
2. สาเหตุหลัก เช่น ปรสิตภายนอก (เช่น เห็บ หมัด หรือไรขี้เรื้อน), เชื้อโรค ( เช่น แบคทีเรีย หรือรา) หรือการแพ้ต่างๆ เช่น สิ่งสูดดม อาหาร หรือสิ่งสัมผัส เป็นต้น
- การติดเชื้อแบคทีเรีย
- การติดเชื้อยีสต์หรือเชื้อรา
- การติดพยาธิภายนอก เช่น ไรขี้เรื้อเปียก หรือไรขี้เรื้อนแห้ง เป็นต้น
- การแพ้ เป็นความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันซึ่งตอบสนองไวเกินไป จัดเป็นสาเหตุหลักที่สำคัญของปัญหาหูอักเสบ ได้แก่ การแพ้สิ่งสูดดม การแพ้อาหาร การแพ้สิ่งสัมผัส หรือแพ้ยา
- สิ่งแปลกปลอมหรือการได้รับบาดเจ็บต่างๆ สุนัขจะเกาหรือทำร้ายตัวเองจนเกิดบาดแผลและเป็นผลให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนตามมาได้
- ความผิดปกติทางฮอร์โมน เนื่องจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนการทำความสะอาดช่องหู
ช่องหูของสุนัขและแมวจะมีลักษณะเป็นท่อรูปตัว L มักมีขนขึ้นมากในช่องหูต้องถอนออกให้เรียบร้อย
การใช้น้ำยาล้างหู โดยหยอดน้ำยาลงในช่องหูแล้วนวดเบาๆบริเวณโคนหูประมาณ 30 วินาที แล้วจึงซับให้แห้งด้วยสำลีสะอาดและใช้ก้านไม้ที่พันด้วยสำลีที่ชุ่มน้ำยาทำความสะอาดช่องหู ทำซ้ำกันจนพบว่าไม่มีเศษเนื้อเยื่อหรือขี้หูหลงเหลืออยู่ในช่องหูอีก หลังจากทำความสะอาดหูแล้ว ปล่อยให้เค้าสะบัดหู หรือสะบัดหัว สัปดาห์ละ2-3ครั้ง เนื่องจากการเช็ดหูบ่อยเกินไปอาจทำให้เยื่อบุช่องหูละคายเคืองได้
การป้องกันโรคหู
เนื่องจากโดยปกติหูที่มีสุขภาพดีจะมีความสามารถในการป้องกันจากการติดเชื้อจุลินทรีย์นี้ได้ดี แต่ถ้าสิ่งแวดล้อมในช่องหูมีการเปลี่ยนแปลงไปอันเนื่องมาจากการแพ้ หรือมีความผิดปกติทางฮอร์โมน หรือมีความชื้น เชื้อแบคทีเรียและยีสต์จะสามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี เป็นผลทำให้ไปทำลายกลไกการป้องกันการติดเชื้อที่ร่างกายมีอยู่ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ทำให้ช่องหูมีสุขภาพดี ก็คือ ความสะอาด ควรตรวจสอบช่องหูของสัตว์เลี้ยงเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ โดยถ้ามีขี้หูเพียงเล็กน้อยถือว่าเป็นสิ่งปกติ แต่ถ้าสัตว์เลี้ยงชอบเล่นน้ำมาก หรือมีใบหูยาวห้อย หรือมีประวัติโรคของช่องหู ควรทำความสะอาดช่องหูเป็นประจำ (2-3 ครั้งต่อสัปดาห์) นอกจากนี้ช่องหูที่มีขนยาวมากก็ควรตัดให้สั้น เพื่อให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก การรักษาโรคช่องหูควรรักษา หรือกำจัดสาเหตุของโรค ซึ่งเป็นเหตุโน้มนำทำให้เกิดปัญหาของช่องหูจึงจะทำให้การรักษาประสบผลสำเร็จและไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก
วิธีทำความสะอาดหู
1. จับสุนัขนั่งในท่าที่ถนัด ซึ่งส่วนใหญ่ต้องใช้ประมาณ 2 คน ในการทำในสุนัขที่ไม่เคยเช็ดหูมาก่อน อาจมีการดิ้นรน เจ้าของควรใจเย็น อย่าบังคับมาก ค่อยๆ เช็ด นานครั้งน้องหมาก็จะเริ่มชินไปเองค่ะ
2. ถ้ารอบๆช่องหูมีขนยาวมาก ให้ตัดให้สั้น หรือในบางตัวที่มีขนงอกในรูหูให้ใช้แหนบค่อยๆดึงเพื่อให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่หมักหมมค่ะ
3. ใส่น้ำยาทำความสะอาดหูลงไปในช่องหู
4. บีบนวดบริเวณโคนหูประมาณ 20-30 วินาที เพื่อให้ขี้หูอ่อนนุ่มลงและหลุดออกมา
5. ใช้ก้านไม้ที่พันด้วยสำลีชุบน้ำยาทำความสะอาดช่องหูให้ชุ่ม ค่อยๆเช็ดขี้หูออกมา โดยเช็ดด้วยความนุ่มนวลตามแนวช่องหู ห้ามกระแทกเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ช่องหูทะลุได้
6. ทำซ้ำๆกันจนช่องหูสะอาด
7. ใช้สำลีชุบน้ำยาทำความสะอาดช่องหูเช็ดด้านในของใบหู
8. เมื่อปฏิบัติภารกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมที่จะให้รางวัลแก่น้องหมาด้วยค่ะ
การรักษา
การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ ของปัญหาและภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้แก่
- การติดเชื้อแบคทีเรียจะรักษาโดยการใช้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมต่อชนิดของแบคทีเรียที่ก่อโรคนั้น
- การติดเชื้อยีสต์จะรักษาด้วยยาต้านเชื้อราแบบเฉพาะที่ในช่องหูเพียงอย่างเดียว ถ้าในกรณีติดเชื้อรุนแรงนั้นจะรักษาด้วยยาต้านเชื้อราแบบเฉพาะที่ใช้ในช่องหูร่วมกับการกินยาฆ่าเชื้อยีสต์ร่วมด้วย
- การติดไรในหู หลักสำคัญในการกำจัดไรในหูให้ได้ผลนั้นจะต้องรักษาด้วยยากำจัดไรทั้งที่อยู่ในช่องหูและตามส่วนอื่นของร่างกายด้วย ดังนั้นการหยอดหูเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องใช้ยากำจัดปรสิตภายนอกที่อยู่ตามร่างกายร่วมด้วย
- การรักษาการแพ้มักจะรักษาด้วยการหมั่นทำความสะอาดช่องหูอย่างสม่ำเสมอด้วยน้ำยาทำความสะอาดหู กินยาแก้แพ้ และเสริมกรดไขมันบางชนิด บางครั้งอาจจำเป็นต้องใช้ยาลดอักเสบที่มีผลกดระบบภูมิคุ้มกันร่วมด้วย
กรณีปัญหาช่องหูที่เกิดมาจากโรคอื่นในร่างกาย เช่น ความผิดปกติทาสงฮอร์โมน หรือการแพ้ จะต้องให้การรักษาสัตว์ทั้งตัว ไม่เฉพาะแต่ช่องหู เช่น การรักษาการแพ้สิ่งสูดดมนั้น จะต้องตรวจทดสอบการแพ้แล้วพยายามหลีกเลี่ยงสารดังกล่าว หรือการเสริมฮอร์โมนที่ผิดปกติ เป็นต้น
ตรวจดูหูหมาด้วยตนเอง
ผศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร
หมาเกาหู หมาส่ายสะบัดหัวบ่อยๆ หูมีกลิ่นเหม็น มีหนองหรือน้ำเหลืองไหลจากรูหู ขนบริเวณ กกหูติดเป็นก้อน เจ็บหู ปวดหู ใบหูบวม ฯลฯ ลักษณะอาการที่ปรากฏดังกล่าว เป็นความผิดปกติของหู ซึ่งนับรวมตั้งแต่ใบหู รูหูส่วนนอก ส่วนกลาง และส่วนใน อันมีสาเหตุมากมายหลายประการ เช่น ติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา มีไรในหู ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ท่านเจ้าของสามารถตรวจตราดูแล "หูหมา" ของท่านได้ก่อนที่จะลุกลามใหญ่โต ไม่ใช่เรื่องยากเย็น และกระทำได้ดังนี้ :-
-
จับหมาขึ้นวางบนโต๊ะเพื่อความสะดวกในการตรวจ อีกทั้งยังทำให้หมามีความรู้สึกคล้ายกับ ไปรับการรักษาจากสัตวแพทย์ตามคลินิก ลดการต่อต้านดิ้นรนลงเป็นอันมาก ตัวเจ้าของเอง ก็สะดวกในการตรวจดูดีกว่าก้มๆ เงยๆ อยู่กับพื้น
-
ใช้มือยกใบหูขึ้นแล้วมองลงไปในรูหูได้สะดวก ทางที่ดีควรใช้ไฟฉายส่องด้วย หูปกติจะไม่มี เศษขี้หูจำนวนมากอุดตัน อาจมีได้บ้างเล็กน้อย ผิวหนังสะอาดเป็นสีนวลไม่มีการอักเสบ บวม แดง หนองหรือบาดแผลปราศจากเห็บในช่องหู
-
ดมกลิ่นที่รูหู จะต้องไม่มีกลิ่นเหม็น หากมีก็จะเป็นกลิ่นขี้หูธรรมดาไม่ใช่หนอง
-
ใช้นิ้วกดเบาๆ บริเวณช่องหูทางด้านนอก หากมีเสียงคล้ายน้ำกระฉอกไปมาหรือหมาร้อง เพราะเจ็บนั่นหมายถึงปัญหาช่องหูอักเสบ ต้องพาไปพบสัตวแพทย์
-
ใบหูปกติต้องแบนเรียบสนิทไม่มีการโป่งพองออกหรือขยุกขยิก ส่วนใหญ่ที่โป่งพองออก มักเกิดจากเลือดคั่งในใบหู ต้องรีบพาไปหาสัตวแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
-
ขลิบแต่งขนในช่องหูมิให้ขวางกั้น กีดขวางขี้หูที่จะถูกขับออกมาตลอดเวลา จะทำให้ง่ายแก่การดูแลรักษาความสะอาด
-
ให้รางวัล เช่น ขนม หรืออาหารขบเคี้ยว ตลอดจนคำชม ภายหลังเสร็จสิ้นการตรวจหูแต่ละ ครั้งเสมอ หมาจะรู้สึกชอบตลอดจนพึงพอใจในการปฏิบัติเช่นนี้ จัดเป็นการฝึกฝนอย่างหนึ่ง
ปัญหาเกี่ยวกับหูที่เจ้าของมักพบบ่อยได้แก่ปัญหาการติดเชื้อของช่องหูส่วนนอก เรามักพบว่าเป็นกับหมาพันธุ์ที่มีใบหูใหญ่ซึ่งปรก เช่น บาสเซ็ทฮาวน์ด และคอกเกอร์ เนื่องจากใบหูจะเป็นตัวปิดบังการขับเอาขี้หูออกมาตามธรรมชาติ ทำให้เกิดการสะสม หมักหมม อับชื้นขึ้น จนทำให้เกิดติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ปัญหาหูอักเสบจึงตามมา หรือหมาพันธุ์พูเดิ้ล จะมีช่องหูที่แคบกว่าหมาพันธุ์อื่น ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้เกิดการสะสมขี้หูไว้มากและเร็ว ขนในรูหูที่มีจำนวนมากเกินไปก็เป็นตัวจับหรือดักเอาขี้หูไว้แน่นเต็มรูหูมิอาจขับออกได้ตามปกติ ฉะนั้นจึงควรหมั่นตัดแต่ง หรือถอนขนในรูหูออกเพื่อความสะดวกในการทำความสะอาด และป้องกันการสะสมของขี้หูต่อไป
ควรทำการตรวจหูหมาของท่านอย่างน้อยก็ทุกครั้งหลังอาบน้ำ ตลอดจนสามารถใช้เวลาดังกล่าว เพื่อทำความสะอาดใบหูและรูหูด้วย โดยการใช้น้ำยาเช็ดหูจุ่มสำลีหมาดๆ เช็ดเอาเศษสกปรกออก รวมถึงน้ำที่อาจพลัดหลงค้างอยู่ในรูหูหลังการอาบ ถ้าเป็นหมาหูปรกควรใช้เครื่องเป่าผมของ คุณสุภาพสตรีเป่าลมร้อนให้ภายในช่องหูและใบหูด้านล่างแห้งสนิท ก็จะลดโอกาสหมักหมม อับชื้น อันเป็นบ่อเกิดของโรคลงครับ...
ปลาน้ำจืดไทย ป่าเขา-ทะเลไทย เที่ยวจัง!...ตังค์จะหมดแล้ว...
ขอขอบคุณที่มาภาพและบทความ:
http://www.siamthairidgeback.com
www.vs.mahidol.ac.th
|