  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		  | 
	 
	
		| 
			สถิติผู้เข้าชม
		 | 
	 
	
		
			  ขณะนี้มีผู้เข้าใช้
		 | 
		
			12
		 | 
	 
	
		
			  ผู้เข้าชมในวันนี้
		 | 
		
			404
		 | 
	 
	
		
			  ผู้เข้าชมทั้งหมด
		 | 
		
			5,810,622
		 | 
	 
	
	
	
  |  
	 |  
	| 
 |  
 
	
	
		 |  
		
			
				
	
		| 
					4 พฤศจิกายน 2568
				 | 
	 
	
				| 
			อา		 | 
				
			จ.		 | 
				
			อ.		 | 
				
			พ.		 | 
				
			พฤ		 | 
				
			ศ.		 | 
				
			ส.		 | 
			 
	|   |   |   |   |   |   | 						
					1  |  						| 
					2  | 						
					3  | 						
					4  | 						
					5  | 						
					6  | 						
					7  | 						
					8  |  						| 
					9  | 						
					10  | 						
					11  | 						
					12  | 						
					13  | 						
					14  | 						
					15  |  						| 
					16  | 						
					17  | 						
					18  | 						
					19  | 						
					20  | 						
					21  | 						
					22  |  						| 
					23  | 						
					24  | 						
					25  | 						
					26  | 						
					27  | 						
					28  | 						
					29  |  						| 
					30  | 						
					  | 						
					  | 						
					  | 						
					  | 						
					  | 						
					  |   
			 | 
		 
		 |  
	 
	
	
	
		 | 
		
						
				 			
							
		
							
					 
				
					 | 
	 
	
		 | 
	 
	
	
				
	
		
			
				ไข่น้ำ
			
			 
			[1 กันยายน 2554  13:41 น.]จำนวนผู้เข้าชม 8431 คน		 | 
	 
	
		| 
					
								 | 
	 
	
		
			ไข่น้ำ 
 
  
 
ชื่อวิทยาศาสตร์  :  Wolffia globosa (Roxb.) Hartog & Plas 
ชื่อสามัญ  :  Water Meal, Wolffia 
ชื่อวงศ์  :  Lemnaceae 
ชื่ออื่น ๆ  :  ไข่น้ำ, ไข่ขำ, ไข่แหน (ภาคกลาง), ผำ (ภาคเหนือ), ไข่ผำ (ภาคอีสาน) 
 
     ไข่น้ำ ถ้าใครได้เดินตามท้องนาในหน้าฝน จะเห็นผืนน้ำบางแห่งมีเม็ดเล็ก ๆ สีเขียวลอยเป็นแพขึ้นปนกับแหนแดงหรือแหนน้ำ นั่นก็คือไข่น้ำที่เป็นไม้ลอยน้ำขนาดเล็กมาก ไม่มีราก ใบเป็นเม็ดเล็ก ๆ กลมพอง ขนาด 0.5 - 1.5 มม. สีเขียว มักอยู่เดี่ยว ๆ หรือติดกันเป็นคู่ สามารถผลิดอกเป็นช่อเล็ก ๆ อยู่ในถุงเป็นถ้วย มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น นับเป็นพืชมีดอกที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก 
 
วิธีบริโภค 
     ไข่น้ำที่ยังอ่อนมีสีเขียวสด นำมาผัด ใส่ในแกงกะทิ แกงส้ม หรือไข่เจียว ชาวอีสานนิยมนำมาแกงใส่น้ำใบย่านาง ส่วนชาวเหนือใส่ในแกงคั่วปลาดุก ซึ่งมีมากในฤดูฝน ไข่น้ำเป็นพืชขนาดเล็ก แต่ให้คุณค่าทางอาหารมากมาย โดยเฉพาะธาตุเหล็กและวิตามินเอ ด้วยราคาไม่แพง เพียงกระทงละ 3 - 5 บาท หรือประมาณกิโลกรัมละ 20 บาท ก็ได้อาหารอร่อยอีกหนึ่งเมนู 
     การเลือกซื้อไข่น้ำ ควรซื้อในช่วงต้นฤดูฝนจะไม่มีกลิ่นคาว เคล็ดลับการปรุงอาหารด้วยไข่น้ำ ต้องใส่เป็นเครื่องปรุงสุดท้าย และต้องกินให้หมดในหนึ่งมื้อ เพราะเก็บไว้รสชาติความอร่อยก็จะลดน้อยลง สำหรับไข่น้ำควรนำมาประกอบอาหารทันที ไม่ควรเก็บไว้ข้ามคืน เพราะเน่าเสียได้ง่าย 
 
ประโยชน์อื่น ๆ  
     ชาวบ้านบางท้องถิ่นช้อนมาเลี้ยงปลาในบ่อ 
 
ที่มา : หนังสือ "ผักพื้นบ้าน 1" โดย อุไร  จิรมงคลการ		 | 
	 
		
		| 
			
		 | 
	 
	 
 
 |  
		 
 
		 |